กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (28 พ.ค.) ศาลแคนาดาตัดสินให้ส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) บริษัท หัวเว่ย ไปสู่กระบวนการพิจารณาคดีในสหรัฐอเมริกา ชี้เป็นความผิดตามข้อตกลงการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ฮีทเทอร์ โฮล์มส ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของบริติชโคลัมเบีย ตัดสินเมื่อวันพุธ (28 พ.ค.) ว่าการกระทำที่ถูกกล่าวหาของเมิ่ง ถือเป็นอาชญากรรมในแคนาดาซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อดำเนินการต่อยังเขตอำนาจศาลประเทศสหรัฐอเมริกา
คำตัดสินครั้งนี้ ได้รับการชื่นชมจากเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา แต่อาจจะเป็นการตัดความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและจีนซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่การจับกุมของเมิ่งในเดือนธันวาคม 2018 ในระหว่างที่เธอเปลี่ยนเที่ยวบินที่สนามบินแวนคูเวอร์
อัยการสหรัฐยืนยันว่าเมิ่งกระทำการฉ้อโกง เมื่อเธอโกหกเรื่องความเกี่ยวข้องระหว่างหัวเว่ยและบริษัทที่เคยขายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมให้กับอิหร่าน อันถือเป็นพฤติกรรมการค้าที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
การตีความการจับกุมผู้ถูกกล่าวหานั้น มีข้อพิจารณาความหมายพฤติกรรมความผิดนั้น จะเป็นความผิดตามกฎหมายของสองประเทศ ซึ่งจะเข้าเกณฑ์ใช้ในกรณีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ระหว่างสหรัฐอเมริกา กับแคนาดาหรือไม่
อัยการของแคนาดา ยื่นฟ้องว่า การโกหกนายธนาคารเรื่องการติดต่อกับบริษัทในการค้ากับอิหร่าน เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของอเมริกาเข้าข่ายการหลอกลวง และการฉ้อโกงตามกฎหมายในแคนาดา
ในการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาโฮล์มส์เห็นด้วยกับอัยการ โดยพบว่า "สาระสำคัญของการประพฤติผิดที่ถูกกล่าวหา" เป็นความพยายามโดยเจตนาที่จะหลอกลวงนายธนาคาร
ทีมกฎหมายของเมิ่งแย้งว่า พฤติกรรมของเธอไม่ได้เป็นการหลอกลวงและในประเทศแคนาดานั้น ไม่ได้มีการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
ทนายความของเธอจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง ระหว่างที่คดีดังกล่าวอาจเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
หลังจากการพิจารณาคดี เมิ่งจะยังต้องถูกกักตัวอาศัยอยู่ในบ้านที่แวนคูเวอร์ต่อไป และต้องสวมอุปกรณ์ติดตามตัว ซึ่งจะยังพอสามารถเดินทางไปรอบ ๆ เมืองได้อย่างอิสระ
สถานทูตของจีนกล่าวหาใช้ข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนทวิภาคีตามอำเภอใจ
ด้านสถานทูตจีนในกรุงออตตาวา แคนาดา ได้แถลงกล่าวหาสหรัฐอเมริกาและแคนาดาว่า “ใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนทวิภาคีตามอำเภอใจ” ต่อเมิ่ง สิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของเธอถูก “ละเมิดอย่างรุนแรง”
“จุดประสงค์ของสหรัฐอเมริกาคือกีดกันหัวเว่ยและบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงอื่น ๆ ของจีน โดยแคนาดาได้ทำตัวเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ”
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน จ้าว หลี่เจี้ยน เคยกล่าวก่อนหน้าคำพิพากษาเรียกร้องกรณีดังกล่าวว่า คดีนี้เป็น “เหตุทางการเมืองที่รุนแรง”
“ฝ่ายแคนาดาควรแก้ไขข้อผิดพลาด ปล่อยตัวเมิ่งทันทีและทำให้แน่ใจว่าเธอจะกลับสู่ประเทศจีนอย่างปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างจีน - แคนาดา” เขากล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม
แถลงการณ์ของหัวเว่ยที่โพสต์บนทวิตเตอร์ กล่าว “ ผิดหวัง” ในการพิจารณาคดีของศาลแคนาดา และยืนยันว่าหัวเว่ยจะยืนหยัดร่วมใน“ การแสวงหาความยุติธรรมและเสรีภาพของเธอ”
“เราคาดหวังว่าระบบตุลาการของแคนาดาจะพิสูจน์ความบริสุทธิของนางเมิ่งในท้ายที่สุด ทนายความของเมิ่ง จะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อแสวงหาความยุติธรรม” คำแถลงฯ ระบุ
ด้านนายจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา ได้โต้คำเตือนของจีนเกี่ยวกับการเมืองของคดีนี้ว่า “แคนาดามีระบบตุลาการอิสระที่ทำงานโดยปราศจากการแทรกแซงของนักการเมือง” นายกรัฐมนตรีกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และว่า “จีนอาจจะไม่เข้าใจ”
ทั้งนี้ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะส่งมอบเธอให้กับสหรัฐฯ หรือไม่ จะพิจารณาโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของแคนาดา
