ซินหัว/MGR Online (18 เม.ย.) - คณะเจ้าหน้าที่กำกับควบคุมการปีนเขาในเขตปกครองตนเองทิเบตทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน วางแผนทำความสะอาดยอดเขาจูมู่หลางหม่า (เอเวอร์เรสต์) จัวอ้าวโหย่ว และซีเซี่ยปังหม่า ในช่วงฤดูปีนเขาที่กำลังจะมาถึง
แถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (18 เม.ย.) ระบุว่าโครงการรณรงค์ทำความสะอาดยอดเขาบนเทือกเขาหิมาลัยจะดำเนินการโดยทีมปีนเขาทิเบตแห่งประเทศจีน (China Tibet Mountaineering Team) สมาคมปีนเขาทิเบตแห่งประเทศจีน (CTMA) และหิมาลัย เอกซ์เพดิชัน (Himalayan Expedition) ผู้จัดการการเดินทางท่องเที่ยวในท้องถิ่น
อนึ่ง จีนระงับการเดินทางของชาวต่างประเทศทั้งหมดในทิเบตตลอดช่วงฤดูปีนเขาฤดูใบไม้ผลิประจำปี 2020 ด้วยความหวั่นวิตกจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลก
“เราเชื่อว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการจัดการขยะบนเทือกเขา” เจ้าหน้าที่สมาคมฯ กล่าว โดยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สมาคมฯ มัคคุเทศก์ชาวจีน และชาวบ้านร่วมกันกำจัดขยะทางเหนือของยอดเขาจูมู่หลางหม่ามากกว่า 13 ตัน ซึ่งแบ่งแยกเป็นขยะในพื้นที่และขยะจากการปีนเขา
นอกจากนั้นเมื่อฤดูปีนเขาที่ผ่านมา มีการเปิดใช้ระบบรางวัลเป็นครั้งแรกในทิเบต ซึ่งเป็นการให้รางวัลตามน้ำหนักของขยะกับชาวบ้านท้องถิ่นที่อาสาขนขยะลงมา
“เราจะดำเนินมาตรการเหล่านี้ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพต่อไป” เจ้าหน้าที่สมาคมฯ กล่าว
ทั้งนี้ จีนและเนปาล ต่างประกาศระงับการอนุญาตให้ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยสั่งงดกิจกรรมการปีนเขาในประเทศทั้งหมด และงดการออกวีซ่าท่องเที่ยวระยะหนึ่ง โดยจะทบทวนมาตรการดังกล่าวอีกครั้งหลังจากวิเคราะห์สถานการณ์ในเดือนหน้า
มกราคมปีที่แล้ว (2562) กรมการกีฬาและการท่องเที่ยวทิเบต ได้ประกาศทำความสะอาดเขาจูมู่หลั่งหม่า (珠穆朗玛) ที่ชาวตะวันตกเรียกว่า เอเวอร์เรสต์ ครั้งใหญ่
รายงานระบุว่า กระทรวงการคลังจีนได้สนับสนุนงบประมาณในปฏิบัติการทำความสะอาดดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 4 ล้านหยวน หรือ 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทิเบตยังเตรียมลดปริมาณนักท่องเที่ยวบนเขาเอเวอร์เรสต์ลงเหลือเพียง 200 คนต่อปี จากเดิมที่จำกัดที่จำนวน 300 คน
ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย โดยเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบตและได้รับการยกย่องให้เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลไปชมความสวยงามและทดสอบความอดทนของร่างกายตนเอง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเรื่องขยะบนสถานที่ท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเป็นช่องทางหลักในการเปิดการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค และเป็นกำลังหลักในการปรับปรุงชีวิตของชาวท้องถิ่น แต่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวก็ต้องยึดหลักการพัฒนา ป้องกันความเสื่อมกับจุดต่ำสุดของการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเชิงคุณภาพของจีน ซึ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้รับมือกับมลพิษเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป