เอเจนซีส์--สำนักข่าวซินหัวรายงาน เจ้า หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลง(2 มี.ค.) ว่ารัฐบาลจีนดำเนินมาตรการป้องกันโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 กับชาวจีนและชาวต่างชาติบนพื้นฐานความเท่าเทียมและหลักกฎหมาย
เจ้ากล่าวว่าหน่วยงานท้องถิ่นได้ดำเนินมาตรการป้องกันและกักกันโรคกับประชาชนจากกลุ่มประเทศและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเมื่อพวกเขาเดินทางถึงจีน อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสองครั้งและการสังเกตการณ์ทางการแพทย์
จีนดำเนินมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับบทกฎหมายจีนซึ่งจำเป็นในการควบคุมโรคระบาดและป้องกันการแพร่ระบาดข้ามพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น แต่คำนึงถึงการปกป้องและช่วยเหลือบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มกำลัง
เจ้าเสริมว่ามาตรการอันมีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 จากมนุษย์สู่มนุษย์ด้วยกันและชะลอการแพร่กระจายของโรคระบาดเหล่านี้ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการ
ด้านหน่วยงานท้องถิ่นปรับปรุงมาตรการต่างๆ สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จีนอย่างทันท่วงที โดยอ้างอิงตามสถานการณ์ของโรคระบาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหวังว่าชาวต่างชาติจะเข้าใจและให้ความร่วมมือ เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของทุกๆคน
อนึ่ง รัฐบาลจีนแถลงเมื่อวันอาทิตย์(1 มี.ค.) ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมุ่งสกัด “การติดเชื้อนำเข้า” ตามพรมแดนจีน ผู้เดินทางเข้าและออกจากเขตแดนประเทศจีนจะต้องยื่นใบแจ้งสุขภาพที่ด่านศุลกากร โดยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพและประวัติการเดินทางอย่างละเอียด
การระบาดฯในจีนคงที่ ขณะการติดเชื้อฯในแดนโสมใต้พุ่งแรง
สถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนค่อยๆดีขึ้น คณะกรรมาธิการพิทักษ์สุขภาพจีนแถลงในวันนี้(3 มี.ค.) การระบาดเสถียร โดยมีกรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมง เท่ากับ 125 ราย เทียบกับกรณีติดเชื้อฯที่ทำสถิติในหนึ่งวันที่ 202 รายในช่วงก่อนหน้าและเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับจากมีการรายงานสถิติการระบาดทั่วประเทศในเดือนม.ค. ยอดรวมผู้ติดเชื้อฯในจีนแผ่นดินใหญ่นับถึงวันที่ 3 มี.ค. เท่ากับ 80,151 ราย ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตฯเพิ่มขึ้น 31 ราย ดันยอดเสียชีวิตฯในจีน เท่ากับ 2,943 ราย
ขณะที่การระบาดฯในประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด (นับถึงวันที่ 3 มี.ค.) ได้แก่ เกาหลีใต้(กรณีติดเชื้อฯ 4,812/เสียชีวิต 28) อิตาลี(กรณีติดเชื้อฯ 2,016/เสียชีวิต 52) อิหร่าน (กรณีติดเชื้อฯ 1,501/เสียชีวิต 66) ญี่ปุ่น(274/เสียชีวิต 6) ส่วนประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อฯรวม 43 ราย เสียชีวิต 1 ราย.