เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--ราคาหมูในจีนพุ่งกระฉูดถึง 110.2 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ดันราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ทะยานสูงขึ้นไปอีก ขณะที่โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังระบาดและหั่นประชากรหมูในจีน
สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยในวันนี้(10 ธ.ค.) ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือซีพีไอ (consumer price index /CPI) ขยับขึ้น 4.5 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า สูงขึ้นจากระดับ 3.8 เปอร์เซ็นต์ของเดือนต.ค. โดยนับเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่มีการอ่านค่าดัชนีฯนี้ในเดือนม.ค.2012
จีนเป็นประเทศที่มีผู้บริโภคหมูมากที่สุดในโลก แต่ขณะนี้กำลังขาดแคลนซับพลายหมูอย่างหนักเนื่องจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดและคร่าชีวิตสุกรจำนวนมหาศาล คาดว่าในสิ้นปีนี้ประชากรหมูจะลดลงครึ่งหนึ่งของจำนวนหมูทั้งหมดในจีน
วิกฤตขาดแคลนเนื้อหมูทำให้ผู้โภคหันไปหาแหล่งโปรตีนอื่นๆทำให้เมื่อเดือนที่แล้วราคาเนื้อวัว แพะ ไก่ เป็ด และไข่ ถีบตัวสูงระหว่าง 11.8 เปอร์เซ็นต์ และ 25.7 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเดือนพ.ย.ปี 2018
“ภาวะเงินเฟ้อในภาคอาหารยังทะยานสูงขึ้นไปเรื่อยๆเนื่องจากการขาดแคลนเนื้อหมู เงินเฟ้อของเนื้อหมูดีดตัวสูงจาก 108 เปอร์เซ็นต์/ปีต่อปี ขึ้นมาเป็น 110 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อนอกภาคอาหารนั้นขยับสูงขึ้นเล็กน้อย” Julian Evans-Pritchard นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำ Capital Economics กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์(9 ธ.ค.)กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทจีนเผยข่าวดีว่าในเดือนพ.ย.ฝูงสุกรในจีนเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์เทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งช่วยชะลอเงินเฟ้อในอาหาร
ในทางตรงกันข้าม ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI ซึ่งสะท้อนราคาที่โรงงานเก็บจากกลุ่มผู้ค้าส่ง ติดลบ 1.4 เปอร์เซ็นต์/ปีต่อปีในเดือนพ.ย. ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากดัชนีในเดือนต.ค. ที่ติดลบ 1.6 เปอร์เซ็นต์
แม้สถานการณ์กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย ข้อมูลราคาที่ติดลบเช่นนี้ยังบ่งชี้ว่าผู้ผลิตจะลดราคาสินค้าลงอีกเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวและสงครามการค้า
