xs
xsm
sm
md
lg

ชมมรดกสมบัติโบราณคดียุคจิ๋นซีฮ่องเต้ที่จัดแสดงในไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ONLINE--นับถอยหลังที่จีนจะขนโบราณวัตถุจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่นำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไทยกลับเมืองจีนไปแล้ว

ผู้เขียนได้ไปชมทรัพย์สมบัติจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ในวันศุกร์ (6 ธ.ค.)ที่ผ่านมา คาดว่าคนจะไม่ล้นหลามเนื่องจากเป็นวันทำงานแต่ก็ผิดคาด ผู้คนมารอคิวเข้าชมกันหนาแน่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบการจัดให้ผู้ชมเข้าไปเป็นกลุ่มกลุ่มละ 50 คน ทำให้การเข้าชมนิทรรศการไม่ต้องเบียดเสียดกันจนการเดินชมหยุดชะงัก

แม้ผู้เขียนเคยไปชมกองทหารดินเผาแห่งสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่นครซีอันในมณฑลส่านซี การไปชมทรัพย์สมบัติโบราณคดีอันล้ำค่าที่จีนได้คัดสรรมาแสดงในไทยนี้ก็นับเป็นบุญตาทีเดียว

นิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้จัดที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. และกำลังสิ้นสุดในวันอาทิตย์ 15 ธ.ค.นี้ จัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เช่น หุ่นทหารและม้าดินเผา รถม้าสำริด อาวุธสำรัด เครื่องภาชนะ ฯลฯ สำหรับคนไทยค่าตั๋วเข้าชมแค่ 30 บาทเท่านั้น นับเป็นโอกาสดีจริงๆได้ชมสมบัติโบราณคดีที่เป็นประจักษ์พยานและพยานหลักฐานช่วง “ยุคก่อตั้งจีน” เมื่อกว่า 2,200 ปีที่แล้ว

ในนิทรรศการได้ปูพื้นบริบทประวัติศาสตร์ในช่วงยุคก่อนการรวมชาติโดยจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยเงื่อนไขที่สุกงอมจนอ๋องแห่งแคว้นฉินคือฉินหวางเจิ้ง (พระนามเดิมของจิ๋นซีฮ่องเต้) สามารถพิชิตชัยเหนือรัฐมหาอำนาจทั้งหก และรวมรวบแผ่นดินจีนอันแผ่ไพศาลที่ตกทอดมาเป็นแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบัน

นาม “จิ๋นซีฮ่องเต้” นี้เป็นที่คุ้นหูชาวไทยมานานแล้ว ชื่อในภาษจีนกลางคือ ฉินสื่อหวงตี้, ฉิน (秦) หมายถึง ราชวงศ์ฉิน, สื่อ(始) หมายถึง แรก, หวงตี้(皇帝) หมายถึงจักรพรรดิ หรือฮ่องเต้ รวมความหมายก็คือ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉิน (พ.ศ.323-พ.ศ.338) เมื่อ 2,240 ปีที่แล้ว

ราชวงศ์ที่ครองแผ่นดินในช่วงก่อนรวมชาติจีนคือราชวงศ์ตงโจว หรือโจวตะวันออก (722-221 ก่อนค.ศ. / 227ปีก่อนพ.ศ.-พ.ศ.323) ซึ่งอำนาจอ่อนเพลี้ยแทบไม่เหลือหลอ

ระหว่างรัชสมัยตงโจวนี้นักประวัติศาสตร์ได้แบ่งเป็นช่วงยุคย่อยสองยุคตามสภาพสังคม คือ ยุคชุนชิว (ยุคใบไม้ผลิใบไม้ร่วง 227 ปีก่อนพ.ศ. - พ.ศ.68) และยุคจ้านกั๋ว (ยุครัฐศึก/พ.ศ.69-323) ช่วงเวลากว่า 500 ปีของชุนชิว-จ้านกั๋วสองยุคนี้เต็มไปด้วยสงครามรบพุ่งชิงความเป็นเจ้าใหญ่ระหว่างแว่นแคว้นต่างๆ ในบันทึกประวัติศาสตร์จีนจารึกไว้ว่า เฉพาะในยุคชุนชิวซึ่งกินเวลาราว 300 ปี มีสงครามรบราฆ่าฟันกันระหว่างแว่นแคว้นถึง 483 ครั้ง จนเหลือ “เจ็ดเจ้าใหญ่” คือมหาอำนาจใหญ่ 7 แคว้นด้วยกัน ได้แก่ ฉู่ เจ้า เยียน ฉี ฉิน หัน และเว่ย เจ็ดเจ้าใหญ่นี้รบกันชนิดเลือดท่วมทาแผ่นดินเพื่อชิงเจ้ายุทธจักรกันต่อในยุคถัดมา คือจ้านกั๋ว “จ้าน” (战) คำนี้ แปลว่า สงคราม...

เหอ ภาชนะมีพวยกาประดับลวดลาย สำหรับรรจุเหล้า วัสดุสำริด อายุสมัย ชุนชิว
แม้ยุคชุนชิว-จ้านกั๋ว เต็มไปด้วยศึกสงครามซึ่งดูเป็นกลียุคที่มืดมนอนธกาล ทว่า ก็มีการพัฒนาที่เป็นคุณูปการยิ่งใหญ่เป็นมรดกตกทอดจวบจนปัจจุบัน... ได้แก่ การค้าขายสัมพันธ์กันระหว่างประชาชน มีพัฒนาการสำคัญด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านทหาร พัฒนาการด้านวัฒนธรรมความเชื่อ และเป็นยุคที่การหล่อสำริดเฟื่องฟูที่สุด...

ในยุคชุนชิว-จ้านกั๋ว ยังมีปวงปราชญ์ยิ่งใหญ่ถือกำเนิดขึ้นจนเกิดคำกล่าวขวัญ “ปรัชญาร้อยสำนักประชันแข่ง”.. ขงจี่อ เมิ่งจื่อ และมั่วจื่อ เป็นต้น สำหรับฉินหวางเจิ้งนั้นชื่มชมหลักนิติธรรมของหานเฟยจื่อและยึดถือใช้ปกครองบ้านเมือง... จนกระทั่งรบชนะหกแคว้นใหญ่ผนวกดินแดน และปราบดาภิเษกเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจักรพรรดิแห่งฉิน หรือปฐมจักรพรรดิแห่งจีน

ในทฤษฏีหนึ่งจึงว่า คำว่า “จีน” (Chin) มาจาก “ฉิน”

เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้แคว้นฉินที่แต่เดิมเป็นเพียงนครรัฐเล็กๆที่อ่อนแอถูกดูหมิ่นดูแคลน รุ่งเรืองขึ้นมาเป็นแคว้นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งก็คือการปฏิรูปซางยาง หลักสำคัญของการปฏิรูปซางหยางคือ ผู้นำต้องให้ความสำคัญกับการเกษตร เมื่อประชาชนมีกินมีใช้แล้ว กองทัพก็จะมีเสบียงเพียงพอและเข้มแข็ง เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของการเรียนรู้เกี่ยวกับ “จิ๋นซีฮ่องเต้” สำหรับผู้เขียนแล้วคือเงื่อนไขที่ทำให้แคว้นฉินเรืองอำนาจขึ้นมาจนเป็นผู้พิชิตเหนือเหล่าแว่นแคว้นอำนาจใหญ่ แต่ราชวงศ์ฉินกลับเป็นราชวงศ์ที่อายุสั้นที่สุดเพียง 15 ปีเท่านั้น ตามที่กล่าวขานกันเกี่ยวกับสาเหตุที่ฉินอายุสั้นที่สุดคือความโหดเหี้ยม

...การเป็นผู้พิชิตเหนือแคว้นอำนาจใหญ่ สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการทำสงครามแย่งชิงดินแดน คือการปกครองบ้านเมือง...เป็นข้อความโปรยบนบอร์ดนิทรรศการที่น่าใคร่ครวญและค้นหาต่อไป

“พระราชวัง หอคอย กลุ่มอาคารจำลองนับร้อยแห่ง เครื่องใช้มีค่าและวัตถุสวยงาม บรรจุไว้จนเต็มสุสาน กับดักเกาทัณฑ์พร้อมที่จะปลิดชีพผู้บุกรุกทุกเมื่อ ปรอทไหลเวียนดุจแม่น้ำนับร้อยสาย เบื้องบนจำลองหมู่ดาวบนสวรรค์ เบื้องล่างนั้นจำลองพิภพ ตะเกียงไขปลาวาฬสว่างไสวไม่มีวันดับ” เป็นคำโปรยในนิทรรศการภาคสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้

สิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบในสุสานจิ๋นซี ที่ได้ชื่อว่า “มหาอาณาจักรใต้พิภพ”…เป็นสุสานที่มีขนาดใหญ่สุดในประวัติมนุษย์ชาติ สุสานฯนี้ตั้งอยู่บริเวณลี่ซานหลิงในเมืองเสียนหยาง ห่างจากนครซีอันราว 100 กิโลเมตร ตัวสุสานสูงถึง 100 เมตร ความกว้างโดยรอบ 2.5 กิโลเมตร บันทึกประวัติศาสตร์ระบุว่าการก่อสร้างสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้นี้ ใช้แรงงานถึงสามแสนกว่าคน

ในเดือนมี.ค. พ.ศ.2517 ชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ทางตะวันออกของนครซีอัน ขุดพบประติมากรรมดินเผารูปทหารขนาดเท่าคนจริงโดยบังเอิญ กองทหารดินเผานับหมื่นรูปนี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่อยู่ชายขอบสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ ต่อมายังพบประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่เป็นรูปจำลองรถศึกมีประทุน ม้า และสารถีขนาดย่อมกว่าของจริงครึ่งหนึ่ง นักโบราณคดีขุดพบฯในชั้นใต้ดินลึกถึง 56 ฟุต เมื่อพ.ศ.2524


จิ๋นซีครองราชย์ 11 ปี เฝ้าเสาะหายาอายุวัฒนะ ระดมแรงงานนับแสนมาก่อสร้างสถานที่พำนักในโลกหน้าของพระองค์ แม้สวรรคตไปเมื่อ 2,225 ปีที่แล้ว แต่เรื่องราวและความมหัศจรรย์ของมหาสุสานแห่งนี้กลับทำให้พระนามจักรพรรดิจิ๋นซียังไม่ตายตราบจนทุกวันนี้



แผ่นจารึกพระราชโองการให้ใช้มาตราชั่งตวงวัดเพียงระบบเดียวของจิ๋นซีฮ่องเต้ วัสดุสำริด อายุสมัย ราชวงศ์ฉิน

(ซ้าย) มีดที่มีด้ามจับเป็นรูปห่วง วัสดุสำริด อายุสมัย ราชวงศ์ฉิน (ขวา) หัวธนู วัสดุสำริด อายุสมัย ราชวงศ์ฉิน

กระเบื้องมุงหลังคา ประดับรูปหงส์ เสือขาว และห่าน วัสดุ ดินเผา อายุสมัยจ้านกั๋ว

หยกสัญลักษณ์แห่งอำนาจ การปกครอง  หยกมีความสำคัญยิ่งในอารยธรรมจีน ดังสะท้อนออกมาในคำกล่าวว่า “ทองและเงินมีราคา แต่หยกล้ำค่ายิ่งกว่า”

หู ภาชนะในพิธีกรรม บรรจุเหล้า วัสดุ สำริด อายุสมัย ชุนชิว

ภาชนะดินเผาเขียนสี (สองใบ-ซ้าย) กุ่ย  ภาชนะสำหรับพิธีกรรม   (ขวา) หู ภาชนะสำหรับพิธีกรรม  บรรจุเหล้า อายุสมัย ชุนชิว

ติ่ง ภาชนะในพิธีกรรม วัสดุ สำริด อายุสมัย ชุนชิว

กุ่ย พาชนะในพิธีกรรม วัสดุ สำริด อายุสมัย ชุนชิว

ระฆัง (เปียนจง) วัสดุ สำริด อายุสมัย จ้านกั๋ว

ส่วนประกอบของบังเหียนและรถม้า ทำจากทองคำและเงิน  อายุสมัย ราชวงศ์ฉิน



ตุ๊กตาหญิงรับใช้ วัสดุ ดินเผาเขียนสี อายุสมัยฮั่นตะวันตก (พ.ศ.338-552 )

ตุ๊กตาหญิงรับใช้ วัสดุ ดินเผาเขียนสี อายุสมัยฮั่นตะวันตก (พ.ศ.338-552 )
ในนิทรรศการฯ ยังได้จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับราชวงศ์ฮั่น (ค.ศ. 206-220 /พ.ศ.338-763) เป็นยุคที่สืบสานความรุ่งโรจน์ต่อจากฉิน ถูกจัดยุคที่รุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน...เป็นยุคทองแห่งการค้าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเส้นทางสายไหม เส้นทางสายไหมโบราณถือกำเนิดในยุคจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ เมื่อ 2100 ปีที่แล้ว

หู ภาชนะบรรจุของเหลว มีการปิดทอง ทำจากสำริด อายุสมัย ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ของเหลวที่พบมีสีเขียวรสชาติคล้ายไวน์ อายุกว่า 2000 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น