MGR ONLINE--เหตุประท้วงที่บายปลายเป็นศึกปะทะรุนแรงในฮ่องกงเข้าสู่เดือนที่หกในเดือนนี้แล้ว โดยสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่เศรษฐกิจดินแดนดิ่งเหว และสิ่งที่ทำให้ผู้เฝ้ามองสถานการณ์ต้องลุ้นระทึกอีกครั้ง...คือการที่ทหารจากกองทัพปลดแอกประชาชนจีน หรือพีแอลเอออก“เก็บกวาด” ถนนหนทางในฮ่องกง
ระหว่างที่อุณหภูมิการปะทะเดือดระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกับตำรวจปราบจลาจลพุ่งปรี๊ดในสุดสัปดาห์ก่อนหน้า บ่ายวันเสาร์(16 พ.ย.) จู่ๆก็มีทหารนอกเครื่องแบบหลายสิบนายออกมาเก็บกวาดถนนหนทางในเขตเกาลูนทง พวกเขาปฏิบัติงานอย่างมีระเบียบว่องไวเก็บก้อนอิฐและขยะนานาชนิดที่ผู้ประท้วงใช้ขว้างปาใส่ตำรวจและรื้อเครื่องกีดขวาง
กลุ่มทหารเหล่านี้คือทหารของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) จากค่ายกองกำลังรักษาการณ์ฮ่องกง ส่วนใหญ่สวมกางเกงขาสั้นสีดำและเสื้อยืดสีเขียวมะกอกที่มีธงชาติจีนติดเอาไว้ตรงแขนเสื้อ และอีกหลายนายสวมเสื้อบาสเก็ตบอลสีส้มและสีฟ้า ที่ด้านหลังเสื้อมีตัวเลขและอักษรภาษาจีน กลุ่มนักสังเกตการณ์ทั่วไปอาจมองข้ามรายละเอียดเกี่ยวกับชุดเสื้อผ้าของทหารที่ออกทำความสะอาดถนนเหล่านี้ แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิรู้ด้านการทหารเป็นต้องสะดุดตากับตัวอักษรจีนบนเสื้อที่เขียนว่า เสวี่ยเฟิงเท่อจ้านอิ๋ง (雪 枫 特 战营/Xuefeng Special Operations Brigade) คือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษเสวี่ยเฟิง
หน่วยปฏิบัติการพิเศษเสวี่ยเฟิงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันตก(Western Theatre Command) ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคตะวันตกจีน ได้แก่ เขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง และเขตปกครองตัวเองชนชาติทิเบต ซึ่งเป็นจุดร้อนความขัดแย้งทางการเมือง
จากการเปิดเผยของสื่อกระบอกเสียงของกองทัพ PLA Daily ระบุว่า เสวี่ยเฟิง คือหน่วยต่อต้านลัทธิก่อการร้ายชั้นนำ ในปี 2010 เสวี่ยเฟิงได้เข้าร่วมซ้อมปฏิบัติการปราบปรามลัทธิก่อการร้ายในเขตเทือกเขาตอนเหนือของปากีสถานใกล้กับพรมแดนอัฟกานิสถาน ในปฏิบัติการซ้อมฯนั้นได้จำลองสถานการณ์หลายแบบ รวมทั้งสถานการณ์จับตัวประกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายการทีวีช่องทหารของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งจีน (ซีซีทีวี) ได้เผยแพร่รายงานฉายภาพหน่วยปฏิบัติการพิเศษเสวี่ยเฟิงกำลังปฏิบัติการค้นหาในห้องที่เต็มไปด้วยแก็สน้ำตาโดยปราศจากอุปกรณ์อย่างหน้ากาก
นับเป็นครั้งแรกที่ทหารพีแอลเอปรากฏตัวอย่างเปิดเผยในฮ่องกงนับตั้งแต่การประท้วงฯเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ในฮ่องกงมีกองทหารจากพีแอลเอประจำการอยู่ภายใต้กฎหมายกองทหารรักษาการณ์ (garrison law) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ปี 1997 วันที่อังกฤษส่งมอบอำนาจปกครองฮ่องกงคืนแก่จีน มาตรา 14 ของกฎหมายฯฉบับนี้ระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงอาจอ้างอิงกฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญน้อยของดินแดนร้องขอไปยังรัฐบาลกลางให้ส่งกองทหารรักษาการณ์ฮ่องกง เข้ามารักษาความสงบเรียบร้อย และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ เมื่อคำร้องขอของรัฐบาลฮ่องกงได้รับอนุมัติแล้ว กองทหารรักษาการณ์พิทักษ์ฮ่องกงจะส่งกองกำลังไปปฏิบัติงาน
อุณหภูมิความตึงเครียดทะยานสูงปรี๊ดจากเหตุเมื่อวันที่11 พ.ย. ตำรวจปราบจลาจลใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงบาดเจ็บอย่างน้อยหนึ่งคน ในคืนวันเดียวกันก็เกิดเหตุไฟสะเทือนขวัญ นายเหลียง ฉี-เฉิง ชาวฮ่องกงวัย 57 ปี ถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผาเพียงเพราะความเห็นต่าง...จากคลิปวิดีโอซึ่งถ่ายโดยผู้เห็นเหตุการณ์ นายเหลียงดูเหมือนจะเป็นพวกหนุนปักกิ่งได้ทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินย่านหม่าออนซาน เมื่อนายเหลียงร้องตระโกนว่า “เราทุกคนต่างเป็นคนจีน พวกผู้ประท้วงก็โต้ตอบว่าพวกเขาเป็น “ชาวฮ่องกง” ด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงกับราดของเหลวไวไฟใส่ตัวนายเหลียงและจุดไฟเผาจนร่างกายไหม้ไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ที่เรียกว่า Operation Dawn ที่อาจแปลได้ว่า ปฏิบัติการรุ่งสาง โดยรุกประท้วงในช่วงวันทำงานและกระจายตัวป่วนเมืองไปทั่วแทนที่จะจำกัดการเดินขบวนประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ดังที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเกิดเหตุปะทะรุนแรงตามมหาวิทยาลัยต่างๆจนดูกลายเป็นสนามรบ โดยเฉพาะเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงหัวรุนแรงกับตำรวจที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลิเทคนิค (โพลิยู)จากคืนวันอาทิตย์(17 พ.ย.)
ตำรวจได้ปิดล้อมโพลิยูรอให้ผู้ประท้วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยยอมจำนนและออกมามอบตัว ฝ่ายตำรวจบอกว่าการที่พวกเขาไม่บุกเข้าไปจับกุมตัวผู้ประท้วงในมหาวิทยาลัยเพราะกลัวว่า “ผู้ก่อจลาจล”อาจใช้อาวุธอันตรายโต้ตอบ
กลุ่มผู้ประท้วงที่ติดอยู่ในโพลิยูราว 600 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา และมีกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีอยู่ราว 200 คน พวกเขาต้องทนกับสภาพทั้งหนาว หิว ป่วยไข้ บาดเจ็บจากกระสุนยาง กระสุนกระสุนถุงตะกั่ว (bean bag rounds) ที่ตำรวจระดมยิงใส่ คู่ปฏิปักษ์ดวลกันตลอด 24 ชั่วโมงจากคืนวันอาทิตย์(17 พ.ย.) โดยฝ่ายผู้ประท้วงปาระเบิดเพลิงและฝ่ายตำรวจระดมแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำจากปืนแรงดันสูง
ขณะเดียวกันในเกาลูนก็เกิดศึกชิงยึดพื้นที่ระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจท่ามกลางแก๊สน้ำตาและระเบิดเพลิงที่ปลิวว่อน การตะลุมบอนตามถนนสายต่างๆในย่านจิมซาจุ่ย เขตจอร์แดน และฮุงฮอม
ด้านรัฐบาลฮ่องกงพยายามโน้มน้าวกลุ่มผู้ประท้วงที่ติดอยู่ในโพลิยูให้ออกมามอบตัว ผู้นำสูงสุดแห่งฮ่องกง นาง แคร์รี่ แลม แถลง(19 พ.ย.) แสดงความหวังว่าการเผชิญหน้าจะจบลงอย่างสันติ และเผยว่าเจ้าหน้าที่พบระเบิดเพลิงอย่างน้อย 8,000 ขวดเก็บไว้ในมหาวิทยาลัย Chinese University แลมยังประณาม 'โรงงานผลิตอาวุธ' อีกแห่ง ในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยที่เธอไม่ได้ระบุชื่อว่ามีของเหลวไวไฟ 2,000 ขวด
ศึกปะทะทำลายล้างฮ่องกงเสียหายย่อยยับ สภาพภายนอกที่เห็นและน่าสะท้อนใจที่สุดคือ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR สถานีมหาวิทยาลัยในย่านซาถิ่นถูกทำลายแทบไม่มีชิ้นดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายชิ้นถูกเผาและขบวนรถไฟถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งจากบริษัทเดินรถไฟ MTR Corporation เผยในวันจันทร์ (18 พ.ย.) พวกผู้ประท้วงสายแข็งกร้าวบุกทำลายทรัพย์สินสถานีรถไฟพังยับ ค่าซ่อมแซมคงพอๆกับค่าใช้จ่ายก่อสร้างสถานีใหม่
พอล ฉั่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกงเตือนในวันจันทร์(18 พ.ย.)ว่าการประท้วงกำลังทำให้ฮ่องกงถดถอยไปกว่า 20 ปี เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษได้ส่งมอบดินแดนกลับคืนสู่การปกครองจีนในปี 1997
การประท้วงที่รุนแรงกระทบการใช้ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งทำลายเหตุผลและคุณค่าอารยชนของฮ่องกงที่มีมาอย่างยาวนาน โดยการกระทำดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับการก่อการร้าย
ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของฮ่องกงไตรมาสสามลดลงมาอยู่ที่ 3.2 เปอร์เซนต์เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าโดยทรุดลงไปอีก 0.5 เปอร์เซนต์ ทำให้รัฐบาลฮ่องกงทบทวนตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจที่แท้จริงสำหรับปีนี้ทั้งปีโดยปรับลดเหลือ -1.3 เปอร์เซนต์ ซึ่งต่ำจากระดับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจีดีพีฮ่องกงจะขยาย 0 ถึง 1 เปอร์เซนต์
ปฏิบัติการเก็บกวาดของกองทหารรักษาการณ์พีแอลเอในวันเสาร์ได้ส่งสารหลายอย่าง...หากความหวังที่การเผชิญหน้าจะจบลงอย่างสันติของผู้นำฮ่องกงไม่สมหวัง...ต่อจากนี้ไปก็เป็นเวลาแห่งการลุ้นระทึก และการภาวนาอย่าให้หน่วยปฏิบัติการต้นลัทธิก่อการร้ายเสวี่ยเฟิงต้องออกมาโชว์ฝีมือให้โลกเห็นเลย