เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์-- จีนประกาศพักการซื้อสินค้าเกษตรอเมริกันโต้ตอบสหรัฐฯที่ “ฉีกสัญญาพักรบ” ในสงครามการค้า
สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว (1 ส.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขึ้นอัตราภาษีศุลกากร 10 เปอร์เซ็นต์ กับสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลือมูลค่าถึง 300,ooo ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอ้างว่าทางปักกิ่งไม่ซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯในปริมาณมากตามสัญญา คำประกาศดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างสองผู้นำรัฐทั้งสอง จากคำแถลงมาตรการโต้ตอบฯของสำนักข่าวซินหวาในวันนี้(6 ส.ค.)
สำนักข่าวซินหวายังแถลงอีกว่าจีนอาจขึ้นอัตราภาษีต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯที่ทำการซื้อขายหลังวันที่ 3 ส.ค. พร้อมแสดงความหวังว่าสหรัฐฯจะกลับมาปฏิบัติตามคำสัญญาที่สองผู้นำได้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์และสี จิ้นผิง ได้ตกลงกันในซัมมิต G20 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ในโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในข้อตกลงนี้ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะกลับมาเจรจาเศรษฐกิจการค้ากันอีกครั้งในปีนี้ และวอชิงตันจะไม่ขึ้นภาษาการค้าต่อสินค้าจีนอีก
ในการแถลงพักรบศึกการค้าที่ซัมมิต G20 ในแดนปลาดิบ ทรัมป์กล่าวว่า “เราจะไม่ขึ้นภาษีการค้าอีก และพวกเขา(จีน)จะซื้อสินค้าเกษตรของพวกเรา”
“การที่จีนประกาศจะไม่ซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จะทำให้เกษตรกรอเมริกันนับแสนๆเดือดร้อน” นาย Zippy Duvall ประธานสภาการเกษตรแห่งอเมริกา (American Farm Bureau Federation) กล่าวหลังจากที่จีนแถลงมาตรการโต้ตอบ
Duvall เผยว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯไปยังจีน ลดลง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐในครึ่งแรกของปี และเกษตรกรกำลังเผชิญภาวะขาดทุนย่อยยับ
จากข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ค. สหรัฐฯส่งออกถั่วเหลือง 10.1 ล้านตันไปจีนในปีการตลาดปัจจุบัน ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ส.ค. ลดลงจากระดับ 27.5 ล้านตัน ที่ส่งออกไปในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากข้อมูลกระทรวงการเกษตรสหรัฐฯ
อนึ่ง ปักกิ่งพุ่งเป้ามาตรการโต้ตอบไปยังถั่วเหลืองอเมริกันซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐฯที่ส่งออกไปจีนมากที่สุดในแง่ของมูลค่า ในการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯรอบแรก หลังจากที่ทรัมป์ซัดมาตรการลงโทษทางภาษีต่อสินค้าจีนเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว