MGR ONLINE - ผู้สื่อข่าวจีนประจำ เดอะเปเปอร์ www.thepaper.cn ได้ติดตามไปสัมภาษณ์นายจาง เหวินหาว ผู้รับผิดชอบบริษัทเจ้าของเรือนำเที่ยว “ฟีนิกซ์” ที่ล่มกลางทะเลอันดามันเมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ค. ทั้งนี้ รายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันนี้ (9 ก.ค.) ระบุ จำนวนผู้โดยสารบนเรือฟีนิกซ์ เท่ากับ 89 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 87 คน รอดชีวิต 37 คน เสียชีวิต 41 คน ยังสูญหาย 11 คน
ในตอนแรกนั้นไม่มีใครรู้ว่านายจางหลบไปอยู่ที่ไหน บริษัทก็ย้ายหนีไป แถมมี “ข่าวลือ” จากย่านผู้ประกอบกิจการเรือในภูเก็ตอีกว่า ใต้ท้องเรือ “ฟีนิกซ์” มีปูนซีเมนต์หนักถึง 2 ตัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ “เรือจมดิ่งสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตาเช่นนั้น”
บริษัทที่ประกอบการเรือนำเที่ยว/ดำน้ำ “ฟีนิกซ์” คือ บริษัท TC DIVING ชื่อย่อ TC มีสำนักงานบริษัทอยู่ที่ถนน Sunrise Rd ในเช้าวันที่ 7 ก.ค. นายจาง เหวินหาว ยอมมาให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน เดอะเปเปอร์ บอกว่าเขาไม่ได้หลบหนี
นายจาง เหวินหาว ได้แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการบริษัทจัดทริปดำน้ำ TC เจ้าของบริษัทตามกฎหมายคือ ภรรยาชาวไทยของเขา ผู้มีชื่อจีนว่า “เฉิน หย่าถิง” (น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยการ) เกิดเมื่อปี 1992 ส่วนนายจางนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบเพียงการสอนดำน้ำเท่านั้น
“ผมกับภรรยาได้ซื้อเรือ ไม่รู้เรื่องการต่อเรือเลย” นายจางกล่าว “เรือฟีนิกซ์เป็นเรือใหม่ ไม่ใช่เรือที่นำมาซ่อมตกแต่งใหม่ เป็นเรือที่ต่อในภูเก็ต พวกเราได้ไปเลือกซื้อเรือที่อู่ต่อเรือ...รับเรือมาทำกิจการเรือนำเที่ยว และดำน้ำ ยังไม่ถึงหนึ่งปีเต็มเลย”
“สาเหตุของอุบัติเหตุเรือล่ม กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่” นายจางกล่าว ด้าน น.ส. “เฉิน หย่าถิง” ยังได้แสดงใบรับรองเรือ “ฟีนิกซ์” กับผู้สื่อข่าว เดอะ เปเปอร์
ส่วนเรื่อง “ย้ายบ้าน” นั้น นายจางบอกว่า เนื่องจากหมดสัญญาเช่าเลยต้องย้ายบ้านใหม่
“ถ้าไม่มีข่าวออกมาบอกว่าผมหลบหนีก็จะไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นนี้ ตอนนี้ผมพยายามสุดกำลังในการช่วยเหลือ ต้อนรับญาติๆ ของผู้เสียชีวิต ดูแลผู้บาดเจ็บ”
ผู้สื่อข่าวจีนถามว่า “มีอะไรอยากพูดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนหรือไม่” นายจางได้แต่ก้มหน้าร้องไห้
จาง เหวินหาว เกิดเมื่อปี 1990 เป็นคนภาคเหนือจีน มาประเทศไทยได้ 3 ปี ภรรยาคือ เฉิน หย่าถิง เป็นคนไทย เคยเรียนภาษาจีนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ
คำบอกเล่านาทีระทึกขณะเรือฟีนิกซ์จมสู่ทะเลจากปากของกัปตันเรือ
“เรือล่มอย่างรวดเร็วมากเหลือเกิน ผู้คนที่อยู่ภายในห้องโดยสารเรือส่วนใหญ่หนีออกมาไม่ทัน”
“ตอนนั้นพายุและคลื่นลูกมหึมาซัดกระหน่ำจนเรือโคลงอย่างน่ากลัวมาก ผมรู้สึกเวียนหัวเลยออกมาสูดอากาศข้างนอก ก็พบว่าเรือกำลังเอียงส่อเค้าจะล่มแน่ ผมคิดจะวิ่งไปร้องบอกผู้คนในเรือ แต่ก็ไม่ทันแล้ว” ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์
กัปตันเรือฟีนิกซ์ นายสมจริง บุญธรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เรือนำเที่ยวออกจากท่าเรือในตอน 9 โมงเช้า มุ่งหน้าสู่เกาะราชาและหมู่เกาะใกล้เคียง และกลับจากเกาะราชาในตอนบ่าย 4 โมงครึ่ง ในตอนนั้นเอง เรือได้ถูกคลื่นใหญ่สูง 4-5 เมตรจู่โจม น้ำทะเลทะลักเข้ามาในเรือ เครื่องสูบน้ำออกไม่ทัน เรือก็เริ่มจมลงแล้ว
“ตอนนั้นผมควรตะโกนบอกผู้โดยสารในเรือ ตรวจสอบเสื้อชูชีพว่าใส่ดีแล้วหรือไม่ เรือแพยางสองลำถูกนำออกมา เรือประมงที่อยู่บริเวณใกล้ๆ นั้นก็รีบเข้ามาช่วย” กัปตันเรือเล่า แต่เรือจมลงไปในทะเลอย่างรวดเร็วมาก ตอนนั้นลูกเรือได้พยายามบอกให้นักท่องเที่ยวสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกวุ่นวาย”
ตอนเกือบ 5 ทุ่ม นักท่องเที่ยว 51 คน ได้รับการช่วยเหลือไปกับเรือชูชีพและเรือประมง 12 ลำ “ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือนั้นไม่สามารถติดตามได้เนื่องจากฟ้ามืดมิด อีกทั้งพายุคลื่นทะเลลูกใหญ่กำลังซัดกระหน่ำ” กัปตันเรือกล่าว