xs
xsm
sm
md
lg

นักเรียนจีนตี “ตั๋วรถไฟเที่ยวเดียว” สู่สนามตัดสินโชคชะตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักเรียนโดยสารขบวนรถไฟที่ได้ฉายาว่า “ขบวนรถไฟเกาเข่า”  ที่เมืองต้าหยังซู่ เขตปกครองตัวเองมองโกเลียในเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เพื่อไปสอบเอ็นทรานซ์ นับเป็นการตีตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวที่ตัดสินชะตาชีวิตของเด็กๆ  (ภาพ ไชน่าเดลี่/ VCG)
ไชน่า เดลี่--ขบวนรถไฟกำลังพานักเรียนกลุ่มหนึ่งออกจากเทือกเขาซิงอัน ไปยังเมืองที่ไกลจากบ้านพวกเขา 130 กิโลเมตร ที่มีความท้าทายใหญ่ที่สุดในชีวิตรอพวกเขาอยู่ นั่นคือ “เกาเข่า”

“เกาเข่า” ในภาษาจีน หมายถึงการสอบเอ็นทรานซ์เข้าสถาบันอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัย เกาเข่าเปรียบดั่งสงครามชีวิตที่ตัดสินชะตากรรมของเด็กๆ สำหรับปีนี้ จีนเปิดการสอบ “เกาเข่า” ระหว่างวันที่ 7- 8 มิ.ย. โดยมีนักศึกษาราว 9.75 ล้านคน ได้ลงทะเบียนเข้าสอบฯ

ลู่ กุ้ยอี๋ นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมศึกษาหมายเลขสอง ประจำตำบลต้าหยังซู่ และเพื่อนนักเรียน โดยสารรถไฟเมื่อวันอังคาร(5 มิ.ย.)

“มันอาจเป็นการเดินทางร่วมกันเที่ยวสุดท้ายของพวกเรา” ลู่ บอก

ลู่ได้เฝ้ามองขบวนรถไฟ “เกาเข่า” ออกเที่ยวเดินทางที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งหลายครั้ง เฝ้ามองเพื่อนนักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่าออกเดินทางไปพิชิตการสอบ “เกาเข่า”

ต้าหยังซู่ อยู่ทางเหนือของเขตปกครองตัวเองชนชาติมองโกเลียในของจีน ตั้งอยู่เชิงเขาทิศใต้ของเทือกเขาใหญ่ซิงอัน (Hinggan Mountains) ณ เมืองเชิงเขาแห่งนี้ ไม่มีสนามสอบเกาเข่า นักเรียนต้องเดินทางข้ามเขาไปสอบที่ตำบลอาลีเหอ (Alihe)

ทุกๆปี “ขบวนรถไฟเกาเข่า” จะออกเดินทางในวันที่ 5 มิ.ย. และตั๋วโดยสารรถไฟเที่ยวเดียว ราคา 12.5 หยวน

ก่อนที่จะมีการจัดเที่ยวเดินรถแบบเหมาขบวนที่ถูกเรียกขานว่า “ขบวนรถไฟเกาเข่า” ที่เริ่มเมื่อปี 2003 เหล่านักเรียนต้องตื่นแต่เช้ามืดตีสี่ เพื่อไปให้ทันรถไฟที่จะเดินทางไปยังสถานีจยาเก๋อต๋าฉี จากนั้นยังต้องต่อรถบัสไปที่ Alihe ที่มีการจัดสอบเกาเข่า รวมเวลาเดินทางทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง

เมิ่ง ลี่ เป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนที่ได้ใช้บริการ “ขบวนรถไฟเกาเข่า” ในปี 2003 เธอตื่นเต้นดีใจมากที่รู้ว่ามีการเปิดบริการ “ขบวนรถไฟเกาเข่า” ซึ่งในตอนนั้นเธอกำลังวิตกกังวลกับการเดินทางไปบนถนนที่ขรุขระและใช้เวลานาน ความเหนื่อยยากในการเดินทางนี้ส่งผลกระทบต่อการสอบของเด็กๆ

นับจากนั้นมา “ขบวนรถไฟเกาเข่า” ได้บริการเด็กๆมากกว่า 30,000 คน และมากกว่า 6,000 คน ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่า มันเป็นการเดินทางแห่งโชคชะตา

เมื่อมีการปรับปรุงถนน และการพัฒนาที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการดำเนินชีวิตประชาชน พ่อแม่หลายคนได้ขับรถตัวเองส่งลูกหลานไปสอบเกาเข่า

จำนวนผู้โดยสาร “ขบวนรถไฟเกาเข่า” ที่รวมทั้งนักเรียนและผู้ปกครองได้ลดลง จาก 1,300 คนของช่วงผู้โดยสารหนาแน่นสุด เหลือ 500 คนในปีนี้ นาย เฉิน หรูชิ่ง ผู้คุมการเดินรถไฟกล่าว

ในปีนี้ ขบวนรถไฟสีเขียวที่เก่าโทรมได้ปลดระวางไปแล้ว และมีขบวนรถไฟใหม่อี่ยมติดเครื่องปรับอากาศมาแทนที่

“แม้ว่าการเดินรถไฟสายนี้จะขาดทุนมาตลอด แต่เราก็จะเดินรถต่อไป ตราบเท่าที่มันยังเป็นที่ต้องการ” เฉิน กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น