MGR ONLINE/ ปักกิ่ง--7 ผู้นำใหญ่ชุดใหม่แห่งองค์การอำนาจสูงสุดแดนมังกร พบปะกลุ่มนักข่าว ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง สี จิ้นผิง และหลี่ เค่อเฉียง ยังคงนั่งเก้าอี้ในคณะกรรมาธิการประจำกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สืบเนื่องจากการประชุมเต็มคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 19 ครั้งแรกเมื่อเช้านี้ (25 ต.ค.) ได้เลือกสี จิ้นผิง เป็นเลขาธิการใหญ่แห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ หลังจากนั้น ที่ประชุมฯอันประกอบด้วยผู้นำชุดใหม่ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ 204 คน และคณะกรรมการสำรองของคณะกรรมการกลางพรรคฯ 172 คน ได้เลือกตั้งคณะกรรมาธิการสำรองกรมการเมือง และคณะกรรมาธิการประจำกรมการเมืองฯ
ผู้นำใหญ่แห่งคณะกรรมาธิการประจำกรมการเมืองฯ 7 คน ได้แก่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง （习近平）วัย 64 ปี, นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง （李克强）วัย 62 ปี ทั้งสองดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง
สำหรับกลุ่มผู้นำอีก 5 คน แห่งคณะกรรมาธิการประจำกรมการเมืองฯ ล้วนเป็นผู้นำหน้าใหม่ ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานกลางแห่งพรรคฯ นาย ลี่ จ้านซู （栗战书） วัย 67 ปี, รองนายกรัฐมนตรี นาย วัง หยาง （汪洋） วัย 62 ปี, ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยนโยบายแห่งพรรคฯ นาย หวัง หู้หนิง（王沪宁）วัย 62 ปี, หัวหน้าฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลางแห่งพรรคฯ นาย จ้าว เล่อจี้ （赵乐际） วัย 62 ปี, และ เลขาธิการพรรคฯประจำนครเซี่ยงไฮ้ นาย หัน เจิ้ง （韩正） วัย 64 ปี
ที่ประชุมเต็มคณะกรรมการกลางซีพีซีชุดที่ 19 ยังได้เลือกสี จิ้นผิง เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหารแห่งคณะกรรมาธิการกลางพรรคฯ และเลือกรองประธานฯ คือ สีว์ ฉีเลี่ยง （许其亮） และจัง โย่วซย่า （张又侠）
นอกจากนี้ได้เลือก จ้าว เล่อจี้ เป็นนายใหญ่ของคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมาธิการกลางพรรคฯ (Central Commission for Discipline Inspection/ CCDI) ซึ่งมีบทบาทใหญ่ในการกำกับดูแลวินัย และปราบปรามคอรัปชั่น
กลุ่มผู้นำพรรคฯชุดใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นกลุ่มการนำสูงสุดที่ถือหางเสือนำนาวารัฐจีนสู่เป้าหมายสังคมนิยมสมัยใหม่ในกลางศตวรรษนี้
“ผมได้รับเลือกดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมาธิการกลางพรรคฯอีกครั้ง ไม่เพียงเป็นการรับรองผลงานของผม หากยังเป็นแรงสนับสนุนการปฏิบัติงานและต่อสู้ปัญหาต่อไป” สี กล่าวกับที่ประชุมผู้สื่อข่าว
สีกล่าวในที่ประชุมข่าวอีกว่า ใน 5 ปี ข้างหน้านี้ จีนจะบรรลุสู่หัวเลี้ยวหัวต่อการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายอย่าง อาทิ ในปีหน้า 2018 จะครบวาระ 40 ปี การปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศ จีนจะผลักดันการปฏิรูปที่ลงลึกและรอบด้าน เปิดกว้างสู่โลก
“ปี 2019 เป็นปีครบรอบ 70 การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เราจะบรรลุความสำเร็จตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 13 และพัฒนาพิมพ์เขียวใหม่สำหรับอนาคตจีน”
สีได้ย้ำเป้าหมายยิ่งใหญ่ การสร้างสังคมกินดีอยู่ดีถ้วนหน้าในปี 2020
“ไม่เพียงการบรรลุเป้าหมาย 100 ปีอันแรก เรายังต้องเดินหน้าต่อไปสู่เป้าหมาย 100 ปีที่สอง”
ทั้งนี้ ผู้นำจีนได้ตั้ง “สองเป้าหมายแห่งรอบ 100 ปี” ได้แก่ การบรรลุความฝันในวาระครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปี 2021 คือการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีถ้วนหน้า และการบรรลุความฝันครบรอบ 100 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2049 คือ การสร้างสังคมนิยมสมัยใหม่
เผยกลุ่มการนำใหม่ นักปฏิรูปมือฉมัง ผ่านงานในเขตยากไร้
รายงานข่าวสำนักข่าวซินหวา ระบุ สี จิ้นผิง เริ่มเข้าสู่เวทีการเมืองเมื่อ 44 ปีที่แล้ว เป็นยอดนักปฏิรูป ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เขาได้ผลักดันมาตรการปฏิรูป มากกว่า 1,500 มาตรการ เดินสายตรวจการตามพื้นที่ต่างๆ 50 แห่งทั่วประเทศในช่วงเวลา 151 วัน
กลุ่มผู้นำใหญ่แห่งคณะกรรมาธิการประจำกรมการเมืองฯคนอื่นๆ ล้วนเป็นนักปฏิรูปและผลักดันนโยบายเปิดกว้างที่ไฟแรง ล้วนมีการศึกษาสูง มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในปรัชญาและความคิดเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งมีผลงานตีพิมพ์สู่สถาบันศึกษา และหนังสือ
ผู้นำหลายๆคนในชุดการนำใหม่นี้ มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน ประสบความสำเร็จในการพิชิตอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจ ผลักดันสวัสดิการสังคม จัดการพัฒนาเขตเมือง ปราบปรามคอรัปชั่น และการเปลี่ยนถ่ายภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการเปิดกว้างและพัฒนาแบบสมประโยชน์ มีวิสัยทัศน์ระดับสากล และประสบการณ์ในการรับมือกับประเด็นระหว่างประเทศ.
