อีเจอินไซท์ รายงาน (17 พ.ย.) กระแสรณรงค์โครงการ วางหนังสือในที่สาธารณะเพื่อให้คนหยิบอ่าน หรือ Scattering Books project ที่ได้รับการชื่นชมล้นหลามบนโลกอินเตอร์เน็ต กลับไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนจริงๆ ที่เดินไปมาในสถานีรถไฟใต้ดิน
รายงานข่าวกล่าวว่า กิจกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือซึ่งทิ้งวางอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน ทั่วกรุงลอนดอนเพื่อให้คนทั่วไปหยิบอ่านฟรี และนำกลับมาวางหรือส่งต่อให้ผู้อื่นอ่าน
อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจนี้ยังไม่ประสบผลตามคาดหวังนัก ด้วยหนังสือที่วางเหล่านั้น ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เดินไปมาในสถานีรถไฟใต้ดิน แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รถไฟฯ ก็ไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นกับเรื่องนี้
ขณะที่โครงการนี้ ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า บริษัทในกรุงปักกิ่งชื่อ ซินสื่อเซียง สร้างกระแสบนสื่อออนไลน์ (วีแชต) อย่างมาก อีกทั้งได้รับคำชื่นชมหลายแสนทั่วในอินเตอร์เน็ต แต่เมื่ออยู่บนโลกจริง กลับมีคนไม่มากนักที่จะหยิบหนังสือฟรีเหล่านี้มาอ่าน
ความเห็นหนึ่งกล่าวว่า ในช่วงเวลาเร่งรีบ และแออัด ทำให้การอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ใช่กิจกรรมที่นิยมนัก แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะสำคัญกว่า คือการตอกย้ำชัดเจนว่าการอ่านหนังสือเล่ม ไม่ใช่พฤติกรรมที่คนสนใจแล้ว เนื่องจากนิยมใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ มากกว่า
มิหนำซ้ำ เจ้าหน้าที่การรถไฟ เริ่มแสดงความกังวลว่าโครงการหนังสือถ้ามีคนเอามาทิ้งวางไว้มากๆ จะทำให้เกิดปัญหาขยะบนรถไฟ และบริเวณภายในสถานีฯ
วัตถุประสงค์ของโครงการวางหนังสือให้หยิบอ่านนี้ มีเจตนาเพื่อให้ผู้คนสามารถอ่านหนังสือได้ฟรีตามสถานีรถไฟ และนำออกไปอ่านที่ใดก็ได้ และเมื่ออ่านเสร็จหรือไม่ต้องการอ่านแล้ว ก็เพียงนำหนังสือนั้นกลับมาวางคืนในสถานีรถไฟ เพื่อส่งต่อให้คนอื่นๆ
โครงการนี้ ได้แรงบันดาลใจจาก Scattering Books project ในกรุงลอนดอน โดยนักแสดงคนดัง เอมม่า วัตสัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ในการรณรงค์การอ่าน และบริษัทจีนนี่รับแนวคิดนี้มาใช้ในจีนคือ บริษัท ซินสื่อเซียง ด้วยการแจกจ่ายหนังสือ 10,000 เล่ม ให้กับผู้คนตามสถานีรถไฟใต้ดิน และมีดาราหนุ่มจีน หวง เสี่ยวหมิง เป็นผู้ยืนแจกให้
แม้ซินสื่อเซียง จะมีเจตนาดีน่าชื่นชม แต่ดูเหมือนผู้โดยสารรถไฟใต้ดินจีนจะไม่ค่อยเห็นคุณค่าของกิจกรรมนี้นัก มีคนไม่กี่คนที่หยิบหนังสือไปอ่าน และหนังสือที่ไร้คนหยิบจำนวนมาก ถูกกองทิ้งและที่สุดก็ถูกพนักงานเก็บขยะกวาดออกไปจากสถานี
หยาน หยวนเฉิง หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทซินสื่อเซียง เขาต้องการสนับสนุนให้ผู้คนมีความรู้สึกของการรับและให้แก่กันและกัน ผ่านการส่งต่อสิ่งต่างๆ อาทิหนังสือ ซึ่งเป็นความงามที่ผู้คนซึ่งต่างแปลกหน้าต่อกันจะมีให้กันได้
หวัง (นามสมมติ) ผู้โดยสารรถไฟคนหนึ่ง ซึ่งใช้บริการสถานีรถไฟประจำ กล่าวว่า ได้เห็นคนดังหลายคนโพสต์รูปตัวเองกับหนังสือในโครงการนี้ แต่เหมือนหนังสือจะเป็นเครื่องประดับมากกว่า โครงการดูดีเลย แต่เหมือนเป็นแค่การโชว์ให้คนชื่นชมทางโซเชียลมากกว่า
ผู้โดยสารอีกคนกล่าวว่า ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ตามสื่อออนไลน์ อาจจะดูดีฮือฮาในโลกอินเตอร์เน็ต มีคนเห็นด้วย สนับสนุนมากมาย แต่ในโลกความเป็นจริงกลับไม่มีใครสนใจขนาดนั้น
จู เหว่ย ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย ไชน่ายูนิเวอร์ซิตี้ กล่าวว่า สถานีรถไฟตงจื่อเหมิน ในกรุงปักกิ่ง พลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่เดินจ้ำเร่ง ผมไม่มีความรู้สึกและสมาธิกับการอยากอ่านหนังสือ แม้ผู้รณรงค์จะตั้งใจดี แต่ก็ลืมสภาวะการณ์และพฤติกรรมของสถานที่ในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง นอกจากนั้น หลายคนก็ไม่อยากหยิบมันเพราะหลายเล่มก็ฝุ่นจับดำสกปรกไปแล้ว บางคนระแวงว่าไม่รู้ใครจับมาแล้วบ้าง เอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ เลยเดินผ่านไปดีกว่า