ไชน่าเดลี รายงาน (24 พ.ย.) เหตุหออาคารโรงไฟฟ้าเฟิงเฉิงถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 74 คน โดยโรงไฟฟ้านี้อยู่ในระหว่างก่อสร้างที่เมืองเฟิ่งเฉิง มณฑลเจียงซี ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน
รายงานข่าวกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุหออาคารซึ่งใช้ติดตั้งเครื่องหล่อเย็นสำหรับโรงไฟฟ้าถล่มนั้น มีคนงานอยู่ในบริเวณดังกล่าวประมาณ 70 คน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นช่วยชีวิตคนงาน และบรรเทาความเดือดร้อนอื่นๆ พร้อมกำชับว่าอุบัติเหตุในภาคอุตสาหกรรมของจีนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รัฐบาลกลางควรจะเข้าสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงและเพิ่มการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง สั่งนโยบายให้ช่วยชีวิตเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก โดยมีคนงานจำนวนมากยังคงติดอยู่ใต้ซากอาคาร นอกจากนี้ ยังจัดตั้งคณะกรรมาธิการเข้าสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ และลงโทษผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายในการทำงาน
หลี่ อี้หวง รองนายกเทศมนตรีประจำมณฑลเจียงซี ผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุนั้นเป็นเวลาเปลี่ยนกะของกลุ่มคนงานช่วงกลางคืน กับช่วงเช้า
"เราจะกำกับการสอบสวนเข้มงวด เพื่อหาต้นเหตุโศกนาฎกรรมนี้ และลงโทษผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ" หลี่ กล่าว
ด้านรัฐบาลท้องถิ่น ได้ระดมหน่วยกู้ชีพกว่า 500 คน เพื่อค้นหาคนงานในพื้นที่ตลอดทั้งวัน โดยบริเวณก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้าขนาด 1 ล้านกิโลวัตต์นี้ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมดำเนินงานในต้นปี พ.ศ. 2561
รายงานข่าวกล่าวว่า โรงไฟฟ้าเฟิงเฉิง เป็นกิจการของบริษัทเจียงซี กานเหนิง ซึ่งเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เพิ่งจะแถลงนโยบาย 100 วันเพื่อเร่งรัดการก่อสร้างโรงไฟฟ้านี้ โดยในแถลงการณ์นั้นระบุว่า ฝ่ายบริหารควรจะต้องเข้าพื้นที่ก่อสร้าง ให้คำปรึกษา และเพิ่มจำนวนคนงาน เร่งกระบวนการต่างๆ ในแต่ละขั้นตอน
หลี่ อี้หวง รองนายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า หออาคารหล่อเย็นนี้ เริ่มสร้างเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีความสูง 160 เมตร โดยก่อสร้างไปแล้วที่ความสูง 70 เมตร สำหรับคนงานที่เสียชีวิตนี้ เบื้องต้นสามารถระบุตัวบุคคลได้ 68 คน โดยมีอายุตั้งแต่ 23 ปี จนถึง อายุ 53 ปี
ไชน่าเดลี รายงานว่า อุบัติเหตุในเจียงซีครั้งนี้ นับเป็นอุบัติเหตุในอุตสาหกรรม ครั้งที่ 3 ในรอบสามเดือนที่ผ่านมา หลังจากเมื่อวันที่ 28 กันยายน เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่เหมืองถ่านหินในสือซุ่ยซาน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย มีผู้เสียชีวิต 19 คน สูญหาย 1 คน ถัดมาวันที่ 31 ตุลาคม เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่เหมืองถ่านหินในหย่งฉวน นครฉงชิ่ง มีคนงานเสียชีวิต 31 คน
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยังเกิดระเบิดที่โรงไฟฟ้าถ่านหินหูเป่ย มีผู้เสียชีวิต 21 คน อันเป็นวันครบรอบ 1 ปี ระเบิดท่าโกดังสินค้าในเขตเมืองใหม่ปินไห่ของนครเทียนจินซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 165 คน
โดยในวันครบรอบปีระเบิดเทียนจิน ไชน่าเดลีได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เกิดเหตุระเบิดระเบิดแผดเสียงดังกัปนาทสองครั้ง เท่ากับระเบิดทีเอ็นที 3 ตัน และระเบิดทีเอ็นที 21 ตัน ตามลำดับ ทะเลเพลิงเผาผลาญทุกสิ่งอย่าง แรงระเบิดพังทำลายสิ่งต่างๆในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร บ้านเรือน โรงเรียน ถนนหนทาง สื่อทางการจีน รายงานผู้เสียชีวิต 165 คน และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรงรวมมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สเตรทไทม์ส รายงานเช่นเดียวกันว่า เหตุระเบิดที่เทียนจินส่งผลสะท้อนการทุจริตในการบริหารของรัฐ ซึ่งจากการสอบสวนมีเจ้าหน้าที่ 123 คนถูกลงโทษ อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลจะให้คำมั่นในการแก้ไขปัญหาแต่สำหรับเทียนจิน หลายฝ่ายบอกว่ารัศมีโดยรอบของพื้นที่ระเบิดนั้นซึ่งเสียหายนับกิโลเมตรนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
