ซินหวา สื่อทางการจีนรายงาน (6 ก.ย.) นักโบราณคดีจีนบูรณะมงกุฎโบราณสมัยจักรพรรดิสุยหยางตี้ จนกลับมามีสภาพเหมือนใหม่
ในช่วงระหว่างปี 2555 - 2556 นักโบราณคดีจีนในเมืองหยังโจว มณฑลเจียงซูได้ขุดพบสุสานจักรพรรดิ “สุยหยางตี้” และ “เซียวฮองเฮา” พระอัครมเหสีเอกแห่งจักรพรรดิสุยหยางตี้ โดยได้ค้นพบวัตถุโบราณจำนวนมาในสุสาน รวมถึง “มงกุฎ” ของเซียวฮองเฮาในสภาพที่ค่อนข้างดีบรรจุในกล่องไม้ นับเป็นมงกุฎโบราณที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยขุดค้นพบมาในประเทศจีน
ต่อมา คณะนักสำรวจได้นำมงกุฎดังกล่าวกลับไปยังห้องทดลองเพื่อทำความสะอาด และพบว่าหลายส่วนของมงกุฎได้รับความชำรุดเสียหายไปตามกาลเวลา อาทิเช่น เส้นลวดทองแดงหัก แผ่นประดับทองแดงแตก ไข่มุกประดับรอบมงกุฎป่นเป็นผง จึงได้ส่งมงกุฎต่อไปยังศูนย์วิจัยอนุรักษ์โบราณวัตถุประจำเมืองซีอัน มณฑลส่านซี เพื่อร่วมกันบูรณะโดยใช้วิทยาการสมัยใหม่ เช่น ใช้เครื่องเอ็กซเรย์แสกนหาโครงสร้างมงกุฎ
รายงานระบุว่า มงกุฎดังกล่าวสร้างจากทองคำ ทองแดง ไข่มุกและเส้นด้าย ออกแบบเป็นต้นดอกไม้จำนวน 13 ต้น (แตกต่างกับบันทึกประวัติศาสตร์ซึ่งระบุว่ามีจำนวน 12 ต้น) ด้านหลังมงกุฎมีการประดับเครื่องประดับทรงหยดน้ำ โดยได้ใช้ศิลปะโบราณชั้นสูงประดับรอบมงกุฎอย่างวิจิตรอลังการ
นายจ้าว เฉียง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอนุรักษ์โบราณวัตถุประจำมณฑลส่านซีระบุว่า คณะทำงานได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหารือถึง 5 ครั้ง และใช้เวลาราว 2 ปี จนสามารถบูรณะมงกุฎดังกล่าวได้จนเกือบกลับคืนสู่สภาพเดิม อย่างไรก็ดี ขณะนี้ก็ยังไม่ถือว่าได้บูรณะมงกุฎอย่างเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากยังมีข้อมูลบางส่วนที่ขาดหายไป ยังต้องรอให้มีการพัฒนาเครื่องมือในอนาคตจึงจะดำเนินการต่อไปได้ การบูรณะในครั้งนี้เป็นการนำโครงสร้างหลักของมงกุฎให้กลับฟื้นคืนดีเท่านั้น
จักรพรรดิสุยหยางตี้(พ.ศ. 1143-1161) เป็นพระราชโอรสองค์รองของจักรพรรดิสุยเหวินตี้ ปกครองบ้านเมืองโดยลุ่มหลงในอำนาจจนทำให้ประชาชนลุกฮือก่อกบฏ ต่อมา จักรพรรดิสุยหยางตี้ก็ถูกองครักษ์ปลงพระชนม์ และกบฏชาวนาได้บุกเข้าเผาพระราชวังจนวอดวาย ทำให้ราชวงศ์สุยล่มสลายลง