เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์—เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงกำลังตรวจสอบกรณีการติดเชื้อไวรัสซิการายแรกของเกาะ พร้อมแถลงมาตรการขจัดยุงลาย พาหะของโรค
เผยผู้ป่วยเป็นหญิงต่างชาติวัย 38 ปี ที่มาทำงานที่ศูนย์การเงินระหว่างประเทศในย่านเซ็นทรัล ของฮ่องกง มีประวัติสุขภาพดี เธอได้เดินทางไปยังประเทศแถบคาริเบียนตั้งแต่ต้นเดือน และกลับมายังฮ่องกงเมื่อวันที่ 22 ส.ค. พร้อมด้วยอาการต่างๆ เช่น ปวดข้อ ตาแดง และไปพบแพทย์ตรวจอาการที่โรงพยาบาลยูไนเต็ด คริสเตียน ในเขตกวนถัง (Kwun Tong) ในวันอังคาร(23 ส.ค.) ผลเลือดและปัสสาวะออกมาเป็นบวก บ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อไวรัสในคืนวันพฤหัสฯ ขณะนี้ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการทรงตัวดี
ทางโรงพยาบาลได้แจ้งแก่หน่วยควบคุมโรคของสำนักงานสาธารณสุขฮ่องกง
หน่วยควบคุมโรคได้แถลงมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้ออย่างเข้มงวด โดยขจัดยุงลายที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสซิกาตามแหล่งต่างๆ ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับไวรัสซิกา ช่วยกันกำจัดยุงลายด้วย และมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยระหว่างเดินทางเนื่องจากเชื้อไวรัสนี้ติดต่อกันทางกระแสเลือดและสารคัดหลั่ง ตลอดจนเตือนหญิงตั้งครรภ์อย่าเดินทางไปยังเขตที่มีการติดเชื้อไวรัสซิกา
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสซิกา จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัด เช่น ไข้ต่ำๆ ผื่นแดง ปวดข้อ และตาแดง อาการจะเป็นอยู่ประมาณ 4-7 วันแล้วหายไป ไม่ค่อยมีกรณีเสียชีวิต แต่จะเป็นอันตรายมากในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์นี้ เพราะเชื้อไวรัสซิกาจะทำลายพัฒนาการทารกในครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะมีความผิดปกติทางสมอง ศีรษะลีบเล็ก พิการ และอาจเสียชีวิตได้
ตั้งแต่เกิดอุบัติการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสซิกาในปีที่แล้ว (2558) มีประเทศต่างๆมากกว่า 50 ประเทศ ที่รายงานกรณีไข้ซิกา และสี่ประเทศในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใกล้ชิดกับฮ่องกง ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ก็มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการระบาดของเชื้อไวรัสนี้
ขณะนี้ จีนได้รายงานกรณีไข้ซิกา 22 กรณี โดยผู้ติดเชื้อ 7 คน ได้เดินทางไปยังอเมริกาใต้ จากนั้นก็เดินทางผ่านฮ่องกงเพื่อไปยังจีน
องค์การอนามัยโลกประกาศเชื้อไวรัสซิกาเป็นภัยต่อสุขภาพสาธารณะในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการติดต่อเชื้อไวรัสนี้ในละตินอเมริกา และแคริเบียน