เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - การประกาศลดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนอย่างกะทันหันเมื่อเดือนส.ค. 2558 ทำให้พวกเศรษฐีแดนมังกรหาทางขนย้ายเงินไปลงทุนในต่างประเทศ โดยงัดสารพัดวิธี หลบเลี่ยงการควบคุมเงินทุน อันเข้มงวดของรัฐบาลจีน
ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางอ้างอิงรายวันของเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ลงร้อยละ 1.9 เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2558 ซึ่งเป็นการปรับลดมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา และจนถึงวันที่ 8 ส.ค. 2559 ค่ากลางอ้างอิงรายวันของเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ดิ่งลงร้อยละ 9 ขณะเดียวกันเงินหยวนยังอ่อนค่า เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ โดยอ่อนกว่าร้อยละ 10 ต่อยูโร และร้อยละ 30 ต่อเยนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
การคาดการณ์ว่าเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป บวกกับภาพรวมเศรษฐกิจ ที่ซบเซา ทำให้เงินทุนไหลออกจีนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จากข้อมูลล่าสุด ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีน ลดลง 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือ 3,201,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนก.ค เทียบกับทุนสำรองเมื่อสิ้นเดือนก.ค. ปี 2558 ที่ลดลง 450,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้แรงกดดันจากการไหลออกของเงินทุนมีความผ่อนคลายลง เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทุนสำรอง แต่นาย แลร์รี่ หู นักวิเคราะห์ของบริษัท แม็กควอรี รีเสิร์ช ระบุว่า แรงกดดันจะยังมีอยู่ต่อไป โดยเงินทุน ที่ไหลออกส่วนหนึ่ง เป็นการซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศของชาวจีน เพื่อหาแหล่งลงทุน ที่ปลอดภัยกว่าและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ในยามสกุลเงินในประเทศอ่อนค่า
ทางการจีนมิได้เผยแพร่ตัวเลขเงินทุน ที่ไหลออก แต่จากการประเมินของโกลด์แมน แซคส์ เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินไหลออกจำนวน 372,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการซื้อสินทรัพย์ในต่างแดนของชาวจีนในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว และเงินไหลออกอีกจำนวน 108,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2559 โดยชาวจีนซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 70 ของเงินทุนไหลออกสุทธิ
จากข้อมูลของสำนักงานบริหารอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) สินทรัพย์จากการลงทุนในต่างประเทศของชาวจีนรวมถึงสินทรัพย์ ที่ได้จากการลงทุนโดยตรง สินทรัพย์จากการลงทุนในหลักทรัพย์และสินทรัพย์จากการลงทุนอื่น ๆ
บทวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ยังระบุด้วยว่า จำนวนติดลบใน “รายการผิดพลาดคลาดเคลื่อนสุทธิ” (net errors and omissions) นั้น แท้ที่จริงอาจเป็นเงินทุนไหลออก ที่ถูกปกปิดบิดเบือน เนื่องจากมีจำนวนพองโตในไตรมาส 3 ของปี 2558
รัฐบาลจีนกำหนดกฎระเบียบควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนของประชาชนอย่างเข้มงวด โดยอนุญาตให้ซื้อสินทรัพย์ในต่างแดนได้คนละไม่เกินปีละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นาย หู เปิดเผยว่า ประชาชนจะอาศัยช่องโหว่ของนโยบาย ในการลอบเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้วิธีทำใบแจ้งราคาสินค้า หรืออินวอยซ์ ปลอม เช่น บริษัทนำเข้าเครื่องจักร โดยแจ้งว่า มีราคา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งที่ราคาจริงคือ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเงินส่วนที่เกินนี้ นำไปฝากในธนาคาร หรือนำไปลงทุนในต่างแดน
ฮ่องกงถูกใช้เป็นฐานในการปกปิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศของเศรษฐีจีน จากการเปิดเผยของผู้เชี่ยวชาญ โดยจากตัวเลขของทางการ ยอดสินค้านำเข้าจากฮ่องกงพุ่งขึ้น มาตั้งแต่เดือนธ.ค.
ในเดือนก.ค. สินค้านำเข้าจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นร้อยละ 143 ส่วนในเดือนมิ.ย. และเดือนพ.ค. เพิ่มร้อยละ 144 และร้อยละ 243
เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า ยอดที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการเพิ่มการนำเข้าทองคำจากฮ่องกง แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า ตัวเลขนี้ทะแม่ง ๆ
นาย แอนดรูว์ คอลเลียร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท โอเรียนต์ แคปปิตอล รีเสิร์ช ( Orient Capital Research) มองว่า เป็นความคึกคักผิดปกติอย่างยิ่งในท่ามกลางภาวะการนำเข้าและส่งออก ที่ซบเซา นอกจากนั้น บุคคลวงในอุตสาหกรรมยังกระซิบบอกเขาว่า ตัวเลขนำเข้าที่สูงน่าจะเกิดจากการทำธุรกรรมเก๊ เพื่อเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอก
นายคอลเลียร์ชี้ว่า สินค้านำเข้าจากฮ่องกงกว่าครึ่งหนึ่งเป็นอัญมณี และผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง สินค้าจำพวกนี้น้ำหนักน้อย แต่มูลค่าสูง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการอ้างมูลค่าการนำเข้าให้สูงเข้าไว้
ยังมีวิธีการอื่น ๆ อีก เช่น การแจ้งมูลค่าในการควบรวมกิจการของบริษัทในต่างแดนสูงเกินจริง โดยคอลเลียร์ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ประกอบการของจีนไปลงทุนในต่างแดนรวมทั้งสิ้น 118,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2558 เพิ่มจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14.7 อย่างไรก็ตาม ผลกำไรจากโครงการเหล่านี้กลับต่ำกว่าที่คาดการณ์อย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่า แท้จริงแล้วเป็นการอำพรางการเคลื่อนย้ายเงินทุน
สำหรับรายบุคคลนั้น มีวิธีปกปิดการย้ายเงินไปซื้อสินทรัพย์ เช่น บ้านในนครนิวยอร์ก แวนคูเวอร์ หรือซิดนีย์ ได้ โดยการรวบรวมชื่อสมาชิกในครอบครัว หรือ เพื่อนฝูงเข้าไป ซึ่งแต่ละคนสามารถโอนเงินออกนอกได้ไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ วิธีการนี้เรียกกันในภาษาจีนว่า ฝูงมดย้ายบ้าน
อีกวิธีหนึ่ง ที่รู้จักกันดีคือเคลื่อนย้ายผ่านธนาคารใต้ดิน ซึ่งนิยมทำกันในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เช่น มณฑลกว่างตง โดยชาวจีนสามารถฝากเงิน 1 ล้านหยวนในบัญชีธนาคารของเอกชนในประเทศ และจะถอนเงินจำนวนเดียวกันนี้ในรูปสกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์ฮ่องกง หรือดอลลาร์สหรัฐฯ จากสาขาต่างประเทศของธนาคารดังกล่าวได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แม้มีการใช้สารพัดวิธี แต่นายหูคาดว่า การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศจะซาลงได้ หากธนาคารกลางจีนสามารถใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งแข็งค่าขึ้นและอ่อนค่าลงใน 2 ทิศทาง และบริหารควบคุมการคาดการณ์ของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เงินหยวนหยุดผันผวนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และตลาดจะขานรับกับการอ่อนค่าของเงินหยวนอย่างสงบมากขึ้นในที่สุด