“ภัตตาคารหุ่นยนต์” ฝันสลาย พ่อครัวสมองกลทำร้านเจ๊งไม่เป็นท่า

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ร้านอาหารจีนเผย หุ่นยนต์ยังฉลาดไม่พอจะรับหน้าที่พ่อครัว หรือบริกร

ก่อนหน้านี้ ร้านอาหารหลายแห่ง ยอมลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อหุ่นยนต์ตัวละราว 50,000 หยวน หรือราว 250,000 บาท และเสียค่าบำรุงรักษาอีกเดือนละหลายร้อยหยวน หรือหลายพันบาท เพื่อนำหุ่นยนต์มาทำหน้าที่พ่อครัวและบริกร แทนแรงงานมนุษย์ โดยผู้ประกอบการหลายรายคิดว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับค่าจ้างแรงงานมนุษย์ ในระยะยาว

อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า ภัตตาคารหลายแห่งในเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน และเมืองก่วงโจว มณฑลก่วงตง ได้เลิกใช้หุ่นยนต์ในการให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว เนื่องจากหุ่นยนต์เหล่านี้ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีเท่าที่ควร

รายงานระบุว่า เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นข่าวดังจากการลงทุนซื้อหุ่นยนต์ ซึ่งสามารถรับออเดอร์และนำอาหารไปส่งให้แก่ลูกค้าตามโต๊ะ มาทำหน้าที่บริกรถึง 4 ตัว ได้ปลดประจำการบริกรสมองกลไปแล้ว 2 ตัว ปัจจุบันเหลือหุ่นยนต์ไว้ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าเพียง 2 ตัว นอกจากนี้ ภัตตาคารหุ่นยนต์อีกแห่งหนึ่งก็ได้ปิดตัวไป หลังจากเปิดให้บริการเพียงไม่ถึง 6 เดือนเท่านั้น

หุ่นยนต์พ่อครัวที่นำมาใช้ปรุงอาหารให้แก่นักศึกษา ในโรงอาหารของวิทยาลัยท้องถิ่นแห่งหนึ่งก็ถูกปลดประจำการ หลังจากผู้จัดการโรงอาหารเห็นว่า เจ้าหุ่นยนต์มีความสามารถไม่เพียงพอ

ลูกค้าหลายรายต่างบ่นว่าอาหารที่ปรุงโดยพ่อครัวหุ่นยนต์ รสชาติไม่เอาอ่าว ในขณะที่พนักงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งระบุว่า เจ้าหุ่นยนต์พวกนี้ไม่ฉลาดเอาเสียเลย มักทำอาหารไหม้ ควันคลุ้งตลบร้านเป็นประจำ เนื่องจากทักษะการทำอาหารที่ไม่ได้เรื่อง เอามายืนไว้โก้ๆเท่านั้น นอกจากนี้ยังมักทำจานชามแตกเสียหายอีกด้วย

นายจาง จี้ จาก “อิ๋งชวี เทคโนโลยี” (Yingqu Technology) บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์เจ้าดัง ระบุว่า ในปัจจุบัน หุ่นยนต์ยังมีความฉลาดไม่มากพอที่จะรับหน้าที่พ่อครัว หรือพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นายซุน ฉีหมิน ประธานบริษัท Siert ผู้ผลิตหุ่นยนต์อีกรายเผยว่า มนุษย์สามารถตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่หุ่นยนต์ยังก้าวไปไม่ถึงจุดนั้น