รอยเตอร์ส - ทางการจีนเผย (1 ก.พ.) ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศ ประจำเดือนม.ค. หดตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่ง นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2555
รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตในเดือนแรกของปีนี้ ทรงตัวที่ 49.4 น้อยกว่าเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 49.7 และต่ำกว่าระดับ 50 ที่เป็นเกณฑ์ชี้วัดการเติบโตรายเดือน โดยหากตัวเลขสูงกว่าระดับห้าสิบ หมายถึงเศรษฐกิจมีการขยายตัว แต่หากต่ำกว่าก็สะท้อนการหดตัว
บรรดานักวิเคราะห์เคยประเมินล่วงหน้าว่า ดัชนีฯ ดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ 49.6
ดัชนีพีเอ็มไอฯ ของแดนมังกร ได้ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แล้ว แสดงถึงการเริ่มต้นปีที่ไม่สวยนักสำหรับอาณาจักรการผลิตจีน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “โรงงานโลก” เนื่องจากเผชิญแรงกดดันจากราคาสินค้าถูกลง และปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินของสินค้าบางประเภท อาทิ เหล็กกล้าและพลังงาน
“จีนมีการผลิตไฟฟ้าที่เอื่อยเฉื่อย และการผลิตเหล็กกล้าที่ชะลอตัวในเดือนก่อน สะท้อนกระบวนการรัดเข็มขัดลดหนี้ของภาคอุตสาหกรรม” โจว เฮ่า เศรษฐกรของคอมเมิร์ซแบงค์ (Commerzbank) กล่าว “เวลาเดียวกันจีนเริ่มลดกำลังการผลิตในสินค้าหลายชนิด ซึ่งอาจเพิ่มความกดดันต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค”
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (เอ็นบีเอส) ของจีนเสริมว่า ดัชนีพีเอ็มไอภาคการบริการ (non-manufacturing PMI) ได้ปรับลงไปที่ 53.5 ในเดือนม.ค. ลดจากเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 54.4 แต่ยังอยู่ในขอบเขตของการขยายตัวอันเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะยามผจญกับการชะลอตัวของภาคการผลิต
ภาคการผลิตจีนนั้นอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคการบริการกลายเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตและการจ้างงาน แต่นักวิเคราะห์ยังจับตาดูว่า ภาคการบริการจะสามารถรักษาระดับในปี 2559 ได้หรือไม่
นักวิเคราะห์มองว่า ดัชนีพีเอ็มไอ ภาคการผลิต และภาคการบริการ ซึ่งถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจชุดแรกของปี อาจเกิดการพลิกผันได้อีก ในช่วงวันหยุดยาวราวหนึ่งสัปดาห์ของเทศกาลตรุษจีน ที่จะเริ่มต้นในวันอาทิตย์ (7 ก.พ.)
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตร้อยละ 6.9 ในปี 2558 ซึ่งจัดว่าต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี ส่งผลกดดันต่อนักวางนโยบาย ที่พยายามดิ้นรนเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน หลังเกิดความผันผวนหนักในตลาดหุ้นจีนและค่าเงินหยวน
