เอพี - สืบเนื่องจากเหมืองแร่แห่งหนึ่งของมณฑลซันตงทางจีนตะวันออก เกิดพังถล่มลงมาเมื่อวันศุกร์ (25 ธ.ค.) ทำให้คนงานติดค้างอยู่ใต้ดินนับสิบชีวิต และมีเพียงบางส่วนที่ถูกช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยยอดผู้สูญหายอยู่ที่ 9 ราย และผู้เสียชีวิต 1 ราย
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (30 ธ.ค.) หน่วยกู้ภัยได้ใช้กล้องบันทึกภาพสัญญาณอินฟราเรด สอดส่องเข้าไปในโพรงใต้ดินซึ่งไร้แสงสว่างของเหมืองแร่ยิปซั่ม และค้นพบคนงาน 8 ราย บริเวณทางเดินใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังกีดขวางการเข้าถึง
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า กล้องฯ สามารถตรวจจับภาพคนงานกำลังโบกมือส่งสัญญาณการมีชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งวางแผนหาทางช่วยเหลือพวกเขาให้ออกมาอย่างปลอดภัยที่สุด ขณะเดียวกันได้ลำเลียงเสบียงอาหารลงไปให้กลุ่มคนงานกินประทังชีวิตก่อน
ทั้งนี้ สองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ ชายผู้เป็นเจ้าของเหมืองแห่งดังกล่าว ทราบชื่อ หม่า ฉงปัว ได้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่บ่อน้ำใกล้กับเหมือง ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง 4 ราย ในอำเภอผิงอี๋ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ก็ถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่ง
สำนักงานเฝ้าระวังการเกิดแผ่นดินไหวแห่งชาติจีนระบุว่า เหตุเหมืองแร่ยิปซั่มถล่มในมณฑลซันตง มีความรุนแรงสูงมาก โดยเทียบเท่าได้กับการเกิดแผ่นดินไหวระดับแมกนิจูด 4.0 เลยทีเดียว
จีนถือเป็นประเทศที่มีประวัติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเหมืองสูงที่สุดของโลก โดยสถิติเมื่อปี 2545 ระบุยอดคนงานเสียชีวิตเกือบ 7,000 ราย ทำให้ทางการจีนเร่งปรับปรุงกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น จนกระทั่งปีก่อนตัวเลขดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ 931 ราย
