“โหวไป๋” กับสหาย “หยางซู่” ชอบสนทนากันเป็นเวลายาวนานตั้งแต่เช้าจรดเย็น วันหนึ่งพอสนทนากันจนย่ำค่ำ ถึงเวลาต้องแยกย้าย ระหว่างที่เดินออกมาจากประตูนั้นเองทั้งคู่ก็ปะหน้ากับ “หยาง เสวียนก่าน” บุตรชายของหยางซู่ หยาง เสวียนก่านทราบดีว่าโหวไป๋ชอบเล่าเรื่องขบขัน จึงเอ่ยปากขึ้นมาว่า “โหวซิ่วไฉ* ท่านสามารถเล่าเรื่องตลกให้ข้าพเจ้าฟังสักเรื่องได้หรือไม่?”
ด้านโหวไป๋ที่กำลังอยากจะกลับบ้าน พอได้ยินเสียงรบเร้าจากบุตรชายของสหาย เห็นว่าเลี่ยงไม่ได้ จึงเริ่มเล่านิทานเรื่องหนึ่งความว่า
“มีเสือร้ายตัวหนึ่งระหว่างที่กำลังออกล่าเหยื่ออยู่ในพงไพร ก็ไปพบกับเม่นตัวเขื่องที่กำลังนอนขดตัวอยู่ เสือเจ้าป่านึกว่าเม่นเป็นอาหาร จึงรีบอ้าปากเข้างับโดยไม่ทราบเลยว่าขนแหลมของเม่นนั้นเมื่อทิ่มแทงเข้าไปยังบริเวณปากและจมูกของตนเองแล้วจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส พอโดนขนแหลมของเม่นทิ่มติดจมูก เจ้าเสือก็วิ่งเผ่นไปในป่าอย่าบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวด โดยหวังว่าการกระทำเช่นนั้นจะช่วยสลัดเม่นให้หลุดออกไปได้
“เมื่อเจ้าเสือผู้เคราะห์ร้ายวิ่งไปๆ เม่นก็ไม่หลุดออกเสียที จนกระทั่งเหน็ดเหนื่อยและผลอยหลับไป เมื่อเจ้าป่าหลับสนิท เจ้าเม่นตัวเขื่องก็รีบถอนตัวคลานหนีไปอย่างรวดเร็ว ฝั่งเสือเมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบเม่นแหลมติดที่ปลายจมูกตนเองแล้วก็นึกดีใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับที่ท้องร้องจ๊อกๆ จึงออกเดินเพื่อหาอาหารอีกครั้ง โดยเมื่อเดินไปถึงใต้ต้นสนใหญ่ก็มองเห็นลูกสนหล่นขวางทางอยู่ เมื่อเห็นลูกสน เสือเจ้าป่าก็ตื่นตระหนกจนขนลุกชันไปทั้งตัว
“กระทั่งตั้งสติได้ จึงรีบเอ่ยขึ้นว่า … ช้าก่อน! เมื่อเช้าข้าก็เพิ่งพบบิดาของเจ้ามา ตอนนี้ขอรบกวนท่านช่วยเปิดทางให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่!”
เรียบเรียงจาก 《启颜录》โดย โหวไป๋ (侯白), ราชวงศ์สุย
หมายเหตุ :
*ซิ่วไฉ (秀才) คือ บัณฑิตระดับต้นในระบบการสอบเข้ารับราชการของจีนในสมัยโบราณ