สื่อจีนรายงาน (13 พ.ย.) หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ลั่น จะไม่จำกัดการจับจ่ายซื้อสินค้าจากต่างประเทศของชาวแผ่นดินใหญ่ อีกทั้งจะเปิดกว้างในการซื้อสินค้าของชาวจีน
นายกฯหลี่ ได้กล่าวระหว่างการประชุมคณะมุขมนตรีจีน หรือคณะรัฐบาลเมื่อวันพุธ (11 พ.ย.) ว่าชาวจีนกำลังร่ำรวย และต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลจีนไม่ควรจำกัดการซื้อสินค้าต่างประเทศ แต่ควรจะเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็กระตุ้นบริโภคในประเทศตามนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ตั้งเป้าให้การบริโภคภายในมีบทบาทขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจมากขึ้นและลดการพึ่งพิงการส่งออก
นายกฯหลี่ระบุว่า จีนต้องเปิดกว้างขึ้น ไม่เช่นนั้น ผู้ประกอบการเจ้าเดิมๆก็จะไม่รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ไม่สามารถป้อนสินค้าที่ตลาดต้องการ ทำให้ไม่มีการพัฒนาสินค้าและบริการของตนเอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความต้องการซื้อสินค้าคุณภาพสูงของผู้บริโภคจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลักดันปริมาณสินค้านำเข้าสูงขึ้นอย่างมาก รายงานสถิติของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 100 ล้านคน เดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และจับจ่ายซื้อสินค้ามากกว่าหนึ่งล้านล้านหยวน หรือราวห้าล้านล้านบาท นอกจากนี้ชาวจีนจำนวนมากยังหันมาซื้อสินค้าแบรนด์ต่างชาติทางอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซแดนมังกร ระบุว่า “วันคนโสด” (11 พ.ย.) เทศกาลช้อปปิ้งสุดบ้าระห่ำของชาวจีนในปีนี้ มีเงินสะพัดกว่า 91,200 ล้านหยวน หรือราว 456,000 ล้านบาท โดยหนึ่งในสามของผู้ซื้อสินค้าผ่านอาลีบาบา เลือกจับจ่ายซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
ถึงแม้ว่าผู้บริโภคแดนมังกรจะถวิลหาสินค้าจากต่างประเทศ แต่การนำเข้าสินค้ามายังจีนดูจะไม่ราบรื่นเท่าไรนัก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขาช้อปต่างบ่นถึงความเข้มงวดของกรมศุลกากรจีน ซึ่งตรวจหีบห่อสินค้านำเข้าอย่างละเอียด ทั้งยังมีการกักพัศดุสิ่งของไว้นานนับเดือน เรียกเก็บภาษีนำเพิ่ม ตีกลับสินค้าฯ เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำนักงานศุลกากรส่วนกลาง (General Administration of Customs) ปัดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพิ่มมาตรการพิเศษในการตรวจสอบพัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศ
นาย จ้าว ผิง อดีตนักวิจัยของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า รัฐบาลควรจะอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าจากต่างประเทศให้มากขึ้น โดยขณะนี้ สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน หรือเอสเอเอฟอี ได้จำกัดวงเงินแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของประชาชนจากธนาคารในประเทศ ที่เพียง 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 1.8 ล้านบาทในแต่ละปี ไม่พอสำหรับบริษัทอีคอมเมิร์ซ ที่ทำธุรกรรมซื้อขายสินค้ามูลค่าไม่ต่ำกว่าหลายล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน
เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าผู้บริโภค อาทิ ครีมบำรุงผิว เสื้อผ้าจากตะวันตก และผ้าอ้อม เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคสินค้าจากต่างประเทศที่สูงขึ้นของชาวจีน อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลต่อราคาสินค้ามากนัก เนื่องจากชาวจีนยังต้องจ่ายภาษีการบริโภค และภาษีมูลค่าเพิ่มอีกจำนวนไม่น้อย
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังวางแผนขยายร้านค้าปลอดภาษีตามสนามบินต่างๆ เพิ่มรายการประเภทสินค้าที่อนุญาตให้นำเข้า และขยายเพดานการผ่อนปรนด้านภาษี