เอเจนซี--ในที่สุด เขื่อนใหญ่อีกสองหลังในจีนที่ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ ก็ผ่านไฟเขียว สื่อจีนหนังสือพิมพ์ประชาชน (พีเพิล เดลี่) รายงาน (28 ต.ค.) ความคืบหน้าเขื่อนใหญ่สองหลังบนแม่น้ำจินซา ได้แก่ เขื่อนอูตงเต๋อ และเขื่อนไป๋เฮ่อทัน กำลังได้รับไฟเขียวในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีนี้ (2558) แล้ว
เขื่อนไป๋เฮ่อทัน ขนาด 16 กิกะวัตต์ จะเป็นเขื่อนใหญ่อันดับสอง และเขื่อนอูตงเต๋อ ขนาด 10.2 กิกะ จะเป็นเขื่อนใหญ่อันดับสี่ของประเทศจีน
เมื่อปลายปีที่แล้ว เขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำจินซาสองหลัง คือ เขื่อนเซี่ยงจยาป้า และเขื่อนซีลั่วตู้ ได้เริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว
เมื่อเขื่อนอูตงเต๋อ และเขื่อนไป๋เฮ่อทัน สร้างแล้วเสร็จ กำลังผลิตกระแสไฟฟ้าของเขื่อนใหญ่ทั้งสี่หลังบนจินซาเจียงบริเวณพรมแดนระหว่างมณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) และ มณฑลเสฉวน นี้ จะมีมากเป็นสองเท่าของเขื่อนสามโตรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
สำนักข่าวซินหวาระบุว่ามณฑลเสฉวนและอวิ๋นหนันได้รับรองแผนการย้ายผู้อยู่อาศัยออกจากพื้นที่โครงการเขื่อนอูตงเต๋อและเขื่อนไป๋เฮ่อทันแล้ว และกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อมก็รับรองรายงานการประเมินผลกระทบจากเขื่อนฯแล้วด้วย
รายงานการประเมินโครงการก่อสร้างเขื่อนระบุว่า โครงการเขื่อนอูตงเต๋อ มีความเหมาะสมและพร้อมที่จะยื่นขอการรับรองในขั้นตอนสุดท้ายจากคณะกรรมาธิการการปฏิรูปและการพัฒนา และคณะมุขมนตรี หรือคณะรัฐบาลจีน
รายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของเขื่อนอูตงเต๋อ จัดทำเมื่อปี 2548 แต่การวิจัยโครงการฯดำเนินการในทศวรรษที่ 1960
“การอนุมัติหมายถึงว่ากระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม คณะกรรมาธิการปฏิรูปและการพัฒนา รัฐบาลท้องถิ่น และแน่นอนคณะรัฐบาล ได้บรรลุฉันทามติกันแล้ว” แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการรับรองเผย
ทั้งนี้ China Three Gorges Corporation ผู้ก่อสร้างเขื่อนทั้งสี่หลังดังกล่าว ได้ผลักดันการรับรองเขื่อนอูตงเต๋อ และไป๋เฮ่อ
สื่อกระบอกเสียงของรัฐระบุว่า โครงการเขื่อนจะช่วยบรรเทาความยากจนในเขตกันดารแถบเทือกเขา และช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า แต่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลับแสดงความวิตก
นักธรณีวิทยา นาย หยัง หย่ง กล่าวว่าการก่อสร้างเขื่อนในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวนั้น ยิ่งสร้างความเสี่ยงอันตราย
“พื้นที่ดังกล่าว มีประวัติภัยพิบัติทางธรณีวิทยา และยังมีสัญญาณอันตรายเมื่อไม่กี่ปีมานี้” หยัง กล่าว
นาย สีว์ จ้งเซี่ย ศาสตราจารย์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ว่าด้วยน้ำ มหาวิทยาลัย Beijing Normal University กล่าวว่าเขื่อนจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในบริเวณแม่น้ำแยงซีเกียงตอนล่าง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำจินซา