เอพี - จีนจับกุมแก๊งลักลอบค้าสัตว์ป่า ยึดงาช้าง นอแรด อุ้งเท้าหมี ฯลฯ น้ำหนักรวมเกือบ 1,000 กิโลกรัม
ตำรวจกรุงปักกิ่งแถลง (12 ต.ค.) ว่าจากการดำเนินมาตรการปราบปรามการค้าและการขนส่งอวัยวะสัตว์ป่าอันผิดกฎหมายระหว่างเดือนพ.ค.-ส.ค. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัย 16 ราย รวมถึงของกลางแบ่งเป็นงาช้าง 804 กิโลกรัม นอแรด 11 กิโลกรัม อุ้งเท้าหมี 35 ชิ้น และอื่นๆ มูลค่า 24 ล้านหยวน (ราว 144 ล้านบาท)
ปัจจุบันจีนถือเป็นตลาดค้างาช้างเถื่อนรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยธุรกิจสกปรกแอบงอกเงยอยู่ใต้ฉากหน้าของการค้างาช้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าความต้องการงาช้างของชนชั้นกลางจีนได้คุกคามชีวิตช้างป่าแอฟริกัน ร้อนถึงทางการจีนต้องเร่งต่อสู้กับขบวนการลักลอบค้าสิ่งผิดกฎหมายและพยายามยุติการค้าขายงาช้าง
ในเดือนก.พ. ทางการจีนออกข้อกำหนดห้ามนำเข้างาช้างเป็นระยะเวลา 1 ปี และในเดือนก.ย. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็กล่าวกระตุ้นให้ขจัดวงจรค้างาช้างเชิงพาณิชย์ภายในประเทศจีน ขณะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรก
เจ้าหน้าที่เสริมว่างาช้างที่ยึดมาได้ถูกลักลอบนำเข้าแผ่นดินใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านเกาะฮ่องกง ด้านผู้ต้องสงสัย 16 ราย ถูกรวบตัวโดยกำลังตำรวจป่าไม้ผู้มีหน้าที่สอบสวนอาชญากรรมอันเกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า ในกรุงปักกิ่ง มณฑลเหอเป่ย มณฑลกวางตุ้ง มณฑลซันตง และที่อื่นๆ
ทราฟฟิค (TRAFFIC) กลุ่มต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าซึ่งมีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักรออกมาชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จีน ระบุว่าเป็น “ตัวอย่างชัดเจนในการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาลจีนที่มีต่อการปราบปรามการค้าสัตว์ป่าอันผิดกฎหมาย”
แถลงการณ์ของทราฟฟิคกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่อวัยวะสัตว์ป่าเหล่านี้มีต้นทางจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้คนเอางาช้างและนอแรดที่ครอบครองอยู่ออกมาขายอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 และช่วงไม่นานนี้ขณะความนิยมในการสะสมของป่าลดฮวบลง
ทั้งนี้แถลงการณ์ของตำรวจปักกิ่งเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ในประเทศแทนซาเนียดำเนินคดีทางกฎหมายกับนางหยัง เฟิงชัน วัย 66 ปี ผู้ต้องหาคดีลักลอบค้างาช้างเถื่อน จำนวน 1.9 ตัน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2543 และวันที่ 22 พ.ค. 2557 ในสัปดาห์ก่อน