เที่ยวบินระทึก เครื่องยนต์ “คาเธ่ย์” ไฟลุกกลางอากาศ

สื่อฮ่องกงรายงาน (25 ก.ย.) ผู้โดยสารของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคขวัญผวา หลังเกิดเสียงระเบิดและมีไฟลุกไหม้บริเวณเครื่องยนต์ ทำให้นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่อินโดนีเซีย

เหตุเกิดเมื่อคืนวันพฤหัส (24 ก.ย.) ระหว่างที่เครื่องบินรุ่นแอร์บัส 330 (Airbus A330) ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เที่ยวบินที่ CX170 พร้อมผู้โดยสารจำนวน 251 คน กำลังบินมุ่งหน้าจากเมืองเพิร์ธ ภาคตะวันตกของออสเตรเลีย ไปยังฮ่องกง ปรากฎว่าเครื่องยนต์ของเครื่องบินเกิดขัดข้องและเกิดไฟลุกขึ้น ทำให้นักบินต้องนำเครื่องลงฉุกเฉินที่เมืองเดนปาซาร์ เกาะบาหลี ของประเทศอินโดนีเซีย

โจเอล เซอร์นา (Joel Sirna) นักร้องดังแดนจิงโจ้ หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินระทึกให้สัมภาษณ์แก่สถานีวิทยุ 6PR radio ของออสเตรเลียว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นระหว่างการเดินทาง หลังจากนั้นเครื่องบินเริ่มสั่นโคลงเคลง ไฟในห้องโดยสารดับลง เมื่อเขามองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่า เปลวไฟกำลังลุกไหม้เครื่องยนต์และปีกเครื่องบิน และมีประกายไฟแลบออกมาเป็นระยะ กัปตันได้ประกาศว่าเกิดปัญหากับเครื่องยนต์ ผู้โดยสารหลายคนพากันขวัญหนีดีฝ่อ เด็กหญิงซึ่งนั่งถัดไปจากเขาเสียขวัญและตะโกนร้องไห้เสียงดัง

รายงานระบุว่า หลังจากเครื่องบินได้ลงจอดฉุกเฉินแล้ว ผู้โดยสารยังต้องรอนานนับสองชั่วโมง กว่าที่จะสามารถออกจากสนามบินได้ เนื่องจากกระบวนการเอกสารตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปอย่างล่าช้า ผู้โดยสารชั้นธุรกิจรายหนึ่งบ่นอุบว่า สายการบินฯไม่มีเงินสดในบาหลีมากพอที่จะดำเนินการเรื่องเอกสารการเข้าเมือง ทำให้ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าดำเนินการคนด้วยตนเอง นอกจากนี้ เขายังไม่เห็นเงาของเจ้าหน้าที่สายการบินฯแม้แต่คนเดียว หลังจากเครื่องได้ลงจอดฉุกเฉิน

ก่อนหน้านี้ไม่นาน นักบินรุ่นใหญ่ของสายการบินฯเพิ่งส่งจดหมายเตือนไปยังผู้บริหารสายการบินฯว่า นักบินกำลังทำงานหนักมากเกินไป ความเหนื่อยล้าสะสมจนอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ทางด้านสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคได้แถลงว่า เครื่องยนต์หมายเลขสองของเครื่องบินฯได้หยุดทำงานลงระหว่างการเดินทาง โดยไม่มีผู้โดยสารหรือลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสายการบินได้จัดโรงแรมให้ผู้โดยสารทั้งหมดพักหลังนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน โดยยืนยันว่าสายการบินให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นลำดับแรก ขณะนี้สายการบินกำลังตรวจสอบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว