ในค่ำคืนของวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการแข่งขัน รายการเดอะวอยซ์ จีน(The Voice of China :中国好声音 第四季) 2015 ในปีนี้พิเศษตรงที่มีสาวน้อยชาวไทย "น้องอิงค์" วนัฏษณา วิเศษกุล หรือในชื่อจีนว่า "หล่างเก๋อลาหมู่ (朗嘎拉姆)" เข้าร่วมแข่งขันด้วยในฐานะตัวแทน 1 ใน 4 คนจากทีมโค้ชน่าอิง(那英)
โดยในวันนั้น ตัวแทนจากทีมน่าอิง จับคู่ร้องเพลงประชันกับตัวแทนจากที่โค้ชเจย์ โจว เจี๋ยหลุน(周杰伦) แบบตัวต่อตัว น้องอิงค์ ได้ร้องเพลงแข่งกับ เฉิน จื่อถง(陈梓童) ตัวเก็งอันดับหนึ่งจากทีมเจย์ โดยเธอคนนี้มาในเพลง เข่อไอ้เตอหนี่ว์เหริน(可爱的女人) ของเจย์ โจว ขณะที่น้องอิงค์ เลือกเพลงเก่าอย่าง อี้เจี่ยนเหมย(一剪梅) ของเฟ่ย อี้ว์ชิง(费玉清) มาขับร้อง
คลิกชมคลิปการแข่งขันระหว่างน้องอิงค์ และ เฉิน จื่อถง
หลังจากร้องจบ โค้ชแต่ละคนได้ให้ความเห็นดังนี้
น่า อิง: เฉิน จื่อถง เหมือนตอนรอบ Blind Audition คึกคัก กระตือรือล้น ไพเราะ ท่อน Rap ก็เก่งมาก แต่ ลาหมู่(อิงค์) พอเริ่มร้องคำแรกก็แสดงถึงความผ่อนคลาย ร้องเพลง อี้เจี่ยนเหมย ออกมาได้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ทำดีมาก
โจว เจี๋ยหลุน: เก่งมากทั้งสองคน ดูผ่อนคลาย ไม่มีความกดดันบนเวที ตอนนี้ผมอยากฟังความเห็นของโค้ชวัง เฟิง และ ฮา หลิน บ้าง
วัง เฟิง: การร้องเพลงเมื่อกี้ เฉิน จื่อถง ร้องได้มันส์มาก เพลงนี้การร้องก็จะต้องเป็นแบบนี้ ที่ผมอยากพูดก็คือ หล่างเก๋อลาหมู่ ได้นำเสียงเพลงที่หาไม่ได้จากที่ไหน มอบให้กับยุคสมัยนี้และพวกเรา เพลงอี้เจี่ยนเหมย ที่ร้องเมื่อครู่ร้องได้ไพเราะ ทำได้ดีมาก
ฮาหลิน: เฉิน จื่อถง ร้องเพลงที่เป็นผลงานชิ้นแรกๆ ในวงการของเจี๋ยหลุน และเพิ่มความเป็น Soul Disco แบบ Old School เข้าไป ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสองยุค หนึ่งโบราณ หนึ่งสมัยใหม่ ส่วนหล่างเก๋อลาหมู่นั้นควบคุมเสียงในการร้องของตัวเองได้อย่างไพเราะสมบูรณ์แบบ ผมคิดว่าเหตุใดเพลงเก่าจึงตกทอดมาถึงปัจจุบัน ผมคิดว่าคุณูปการที่ทำคัญประการหนึ่งคือเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ไม่ว่าบนเวทีนักร้องจะอายุเท่าไหร่ แต่หากสามารถถ่ายทอดบทเพลงในยุคนั้นออกมา นั่นคือคุณค่าที่แท้จริงของพวกเขา
ซึ่งการตัดสินเดอะวอยซ์จีนในรอบนี้ใช้ผลโหวตจากสื่อมวลชนในห้องส่งตัดสินในแต่ละคู่ ใครชนะจะได้เข้ารอบทันที จำนวน 4 คน จากนั้นโค้ชของทั้ง 2 ทีมที่แข่งกันมีสิทธิ์เลือกคนที่ยังไม่ได้เข้ารอบในทีมตัวเองได้ 1 คนเพื่อมาแข่งกันอีกครั้ง ใครชนะจะได้เข้ารอบไปเป็นคนที่ 5 ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า น้องอิงค์ ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แพ้โหวตเฉิน จื่อถง และโค้ชน่าอิงไม่ได้ใช้สิทธิ์เลือกน้องอิงค์กลับเข้าไปแข่งอีกครั้ง
เมื่อทราบผล น้องอิงค์ กล่าวบนเวทีว่า "ฉันไม่เสียใจและไม่เคยเสียดายที่ได้ยืนบนเวทีแห่งนี้ เพราะฉันคิดว่าฉันได้ทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณโค้ชน่าอิงอย่างมาก พวกเราฝึกซ้อมกันจนดึก โค้ชน่าอิงก็อยู่เป็นเพื่อน คอยสอนพวกเราว่าควรจะร้องอย่างไร ขอบคุณจริงๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและสนับสนุนฉัน ฉันจะพยายามให้มากขึ้น ฉันจะไม่หมดหวัง"
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ชื่อของน้องอิงค์ กลายเป็นที่รู้จักในแวดวงเพลงจีน โดยเฉพาะผู้ที่พิศสมัยเติ้ง ลี่จวิน แฟนๆ หลายคนเชื่อว่าหลังจากนี้เส้นทางการร้องเพลงของน้องอิงค์ จะสว่างไสวอย่างแน่นอน
สำหรับเพลง อี้เจี่ยนเหมย(一剪梅) ที่น้องอิงค์นำมาร้องนั้น เป็นเพลงประกอบละครชุดไต้หวันชื่อเดียวกัน ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1984 นำแสดงโดย "โค่วซื่อซุน(寇世勋)"
ต้นฉบับเพลง อี้เจี่ยนเหมย
อี้เจี่ยนเหมย หรือ "เหมยหนึ่งกิ่ง" เดิมทีเป็นคำที่โด่งดังมาจากวรรคหนึ่งในบทกวีของ "โจวปังเอี้ยน(周邦彦)" นักกวีและนักสร้างคำสมัยปลายราชวงศ์ซ่งเหนือ ซึ่งเขียนเอาไว้ว่า "ดอกเหมยหนึ่งกิ่งมีความงดงามนับหมื่นแบบ(一剪梅花万样娇)" ต่อมาคำว่า "อี้เจี่ยนเหมย" จึงถูกหยิบยกมาใช้ทั้งในบทประพันธ์ บทละคร และเพลงต่างๆ มากมาย
เพลงนี้ประพันธ์เนื้อร้องโดย "เฉิน อี้ว์เจิน(陈玉贞)" นักแต่งเพลงชื่อดังที่รังสรรค์ผลงานเอาไว้ในเพลงดังหลายยุค ไม่เพียงแต่เพลงของ เฟ่ย อี้ว์ชิง เท่านั้น เฉิน อี้ว์เจินยังเคยเรียงร้อยถ้อยคำลงในเพลงของนักร้องดังหลายต่อหลายคน อาทิ จัง เสวียโหย่ว,Beyond,จัง กั๋วหรง,เฉิน อี้ซวิ่น,เฉิน ก้วนซี,เถา เจ๋อ รวมถึงโจว เจี๋ยหลุน(เจย์ โจว)อีกด้วย ส่วนผู้ประพันธ์ทำนองของเพลงอี้เจี่ยนเหมยคือ "เฉิน ปี่เต๋อ(陈彼得)" ซึ่งถือว่าเป็นนักดนตรีรุ่นที่สองของไต้หวัน ยุครุ่งเรืองของเขาอยู่ระหว่างยุคของเวิง ชิงซี ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงให้เติ้งลี่จวินกับยุคที่ไต้หวันนิยมเพลงของนักศึกษาในรั้ววิทยาลัย โดยอาจกล่าวได้ว่า เฉิน ปี่เต๋อ เป็นนักดนตรีที่มีอิทธิพลต่อแนวเพลงของไต้หวันในยุค 70-80 อย่างยิ่งคนหนึ่ง (คลิกอ่านประวัติ เฟ่ย อี้ว์ชิง)
真情像草原广阔
zhen1 qing2 xiang4 cao3 yuan2 guang3 kuo4
เจินฉิงเซี่ยงเฉ่าหยวนก่วงคั่ว
น้ำใจจริงแท้ ดั่งทุ่งราบกว้างใหญ่
层层风雨不能阻隔
ceng2 ceng2 feng1 yu3 bu4 neng2 zu3 ge2
เฉิงเฉิงเฟิงอี่ว์ปู้เหนิงจู่เก๋อ
พายุหนาหนัก ยังมิอาจกั้นขวาง
总有云开日出时候
zong3 you3 yun2 kai1 ri4 chu1 shi2 hou4
จ่งโหย่วอวิ๋นไค รื่อชูสือโฮ่ว
เมื่อท้องฟ้าเปิด ตะวันอวดโฉม
万丈阳光照耀你我
wan4 zhang4 yang2 guang1 zhao4 yao4 ni3 wo3
วั่นจั้งหยังกวงเจ้าเย่าหนี่หวั่ว
สาดแสงเรืองรองส่องสว่างเธอฉัน
真情像梅花开过
zhen1 qing2 xiang4 mei2 hua1 kai1 guo4
เจินฉิงเซี่ยงเหมยฮวาไคกั้ว
น้ำใจจริงแท้ ดั่งดอกเหมยผลิบาน
冷冷冰雪不能淹没
leng3 leng3 bing1 xue3 bu4 neng2 yan1 mo4
เหลิ่งเหลิงปิงเสวี่ยปู้เหนิงเยียนมั่ว
หิมะเยือกเย็น ยังมิอาจกลบฝัง
就在最冷枝头绽放
jiu4 zai4 zui4 leng3 zhi1 tou2 zhan4 fang4
จิ้วไจ้จุ้ยเหลิ่งจือโถวจ้านฟั่ง
ยามเหน็บหนาวที่สุดบนกิ่งก้านยังเบ่งบาน
看见春天走向你我
kan4 jian4 chun1 tian1 zou3 xiang4 ni3 wo3
คั่นเจี้ยนชุนเทียนโจ่วเซี่ยงหนี่หวั่ว
มองเห็นฤดูใบไม้เคลื่อนเข้าใกล้ฉันเธอ
*雪花飘飘北风啸啸
xue3 hua1 piao1 piao1 bai3 feng1 xiao4 xiao4
เสวี่ยฮวาเพียวเพียว เป่ยเฟิงเซี่ยวเซี่ยว
เกล็ดหิมะปลิดปลิว ลมเหนือหวีดหวิว
天地一片苍茫
tian1 di4 yi1 pian4 cang1 mang2
เทียนตี้อีเพี่ยนชังหมัง
ผืนฟ้าดิน กว้างใหญ่ไพศาล
一剪寒梅傲立雪中
yi4 jian3 han2 mei2 ao4 li4 xue3 zhong1
อี้เจี่ยนหานเหมยเอ้าลี่เสวี่ยจง
เหมยกิ่งหนึ่งยืนต้นทระนงกลางหิมะ
只为伊人飘香
zhi3 wei4 yi1 ren2 piao1 xiang1
จื่อเว่ยอีเหรินเพียวเซียง
เพียงเพื่อส่งกลิ่นกรุ่นหอมสู่เธอที่รัก
爱我所爱 无怨无悔
ai4 wo3 suo3 ai4 wu2 yuan4 wu2 hui3
ไอ้หวั่วสั่วไอ้ อู๋ย่วนอู๋หุ่ย
รักมั่นในคนที่ฉันรัก ไม่เคยสำนึกเสียดาย
此情(此情)长留(长留)心间**
ci3 qing2(ci3 qing2) chang2 liu2(chang2 liu2) xin1 jian1
สือฉิง(สือฉิง) ฉังหลิว(ฉังหลิว) ซินเจียน
ความรู้สึกนี้ คงอยู่ยืนนาน ในหัวใจ
ซ้ำ *-** 1 รอบ
草原(cao3 yuan2) แปลว่า ทุ่งราบกว้างที่เต็มไปด้วยต้นหญ้า
阻隔(zu3 ge2) แปลว่า แยกห่าง ตัดทอน
照耀(zhao4 yao4) แปลว่า ส่องให้สว่าง
淹没(yan1 mo4) แปลว่า ปกคลุม
啸啸(xiao4 xiao4) แปลว่า เสียงที่เกิดจากธรรมชาติ
傲立(ao4 li4) แปลว่าหยัดยืนด้วยความภูมิใจ
伊人(yi1 ren2) เป็นคำเรียกหญิงอันเป็นที่รัก