xs
xsm
sm
md
lg

สื่อของรัฐตั้งข้อสังเกต ช่องโหว่กฎระเบียบมีส่วนทำให้เกิดเหตุระเบิดเทียนจิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพพินาศย่อยยับจากเหตุโกดังสินค้าเก็บสารเคมีอันตรายระเบิดในเทศบาลนครเทียนจิน – รอยเตอร์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - หนังสือพิมพ์ของทางการจีนตั้งข้อสังเกตว่า ช่องโหว่ของกฎระเบียบสำหรับอุตสาหกรรมวัตถุอันตรายและขั้นตอนการออกใบอนุญาตประกอบการ อาจเปิดช่องให้บริษัทเจ้าของโกดังเก็บสารเคมีอันตรายต้นเหตุโศกนาฏกรรมระเบิดที่ท่าเรือเมืองเทียนจิน สามารถเข้าไปตั้งโกดังใกล้กับเขตอาศัยของชุมชนได้อย่างสบาย ๆ

ในบทบรรณาธิการของพีเพิลส์เดลี ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์เมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) หลังเหตุระเบิดผ่านมา 2 วันระบุว่า ในมาตรฐานแห่งชาติของจีนไม่มีการระบุเรื่องช่วงห่างระหว่างสถานที่เก็บสินค้าอันตรายกับอาคารอื่น ๆ ว่า ควรมีระยะห่างอย่างน้อยที่สุดเท่าใด โดยเรื่องระยะห่างของเขตปลอดภัยมีระบุอยู่แต่ในเอกสารว่าด้วยรายละเอียดทางเทคนิคเมื่อปี 2544 ซึ่งกำหนดให้โกดังสินค้าอันตรายต้องอยู่ห่างจากอาคารในชุมชนอย่างน้อย 1 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม โกดังเก็บสารเคมีอันตรายของบริษัท รุ่ยไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมใหม่ปินไห่ อยู่ห่างจากถนน รางรถไฟ และย่านอาศัยของประชาชนราว 600 เมตรเท่านั้น บริเวณเหล่านี้พังเสียหายยับเยินจากแรงระเบิด ที่เกิดขึ้นหลายครั้งและเกิดเพลิงลุกไหม้

บทความดังกล่าว ซึ่งในตอนหลังถูกลบออกจากเว็บไซต์ ยังตั้งข้อสังเกตสิ่งที่น่าวิตกอีกประการได้แก่ความคลุมเครือเกี่ยวกับการใช้อำนาจควบคุมดูแลระหว่างหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ว่า หน่วยงานของรัฐหน่วยใดเป็นผู้มีอำนาจในการควบคุมดูแลบริษัท ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเส้นแบ่งการทำหน้าที่ทำให้เกิดช่องโหว่ให้บริษัทหลุดรอดจากการตรวจสอบไปได้

ในกรณีของรุ่ยไห่โลจิสติกส์นั้น มีการจดทะเบียนดำเนินธุรกิจ โดยระบุแต่เพียงว่า เป็นผู้ประกอบการโกดังสินค้าสำหรับสินค้าทั่วไป ขัดแย้งกับการเปิดเผย ของเกา ไฮว่โหยว รองผุ้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยด้านการทำงานของเทศบาลนครเทียนจิน ภายหลังเกิดเหตุระเบิด ที่ระบุว่า บริษัทรายนี้มีใบรับรองให้เก็บวัตถุอันตรายได้ชั่วคราวระหว่างรอการตรวจของศุลกากร นอกจากนั้น การท่าเรือเมืองเทียนจินยังเป็นผู้ออกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจแก่รุ่ยไห่โลจิสติกส์ แทนที่สำนักงานความปลอดภัยด้านการทำงานจะเป็นผู้ออกใบอนุญาต

บทความชิ้นนี้ยังชี้ด้วยว่า เนื่องจากโกดังสินค้าที่เกิดเหตุนี้อยู่ไกลจากท่าเรือ ดังนั้น ในแง่ปฏิบัติแล้วก็ควรอยู่ภายใต้การบริหารควบคุมของสำนักงานความปลอดภัยด้านการทำงาน จึงจะเหมาะสมกว่า

นอกจากนั้น ทั้งสำนักงานความปลอดภัยด้านการทำงานและสำนักงานผังเมืองมีส่วนร่วมในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติการก่อสร้างโกดังเก็บสินค้า ทว่าเมื่อมีการอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยของประชาชนและอาคารใช้สอยนอกภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในบริเวณนี้กลับพบว่า ไม่มีการนำเรื่องนี้มาปรึกษาหารือกับสำนักงานความปลอดภัยด้านการทำงานแต่อย่างใดเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น