เหตุระเบิดที่เมืองท่าเทียนจิน ดั่ง “สงครามอาวุธเคมีที่ไร้คำประกาศศึก” (ชมภาพ)

ภาพถ่ายทางอากาศ พาหนะ (บน) และรถบรรทุก (ล่าง) ใกล้กับจุดระเบิดในคืนวันพุธ(12 ส.ค.) (ภาพ รอยเตอร์ส)

ASTVผู้จัดการออนไลน์-มันโหดร้ายเสียยิ่งกว่าสงคราม สงครามยังรู้ตัวศัตรูคู่อริชัดเจน ยังมีสัญญาณเตือนภัยก่อนการโจมตี ยังมีกฏกติกาการใช้อาวุธในรูปแบบเพื่อควบคุมพลังการทำลายล้าง

สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่โกดังสินในเขตเมืองใหม่ปินไห่ของนครเทียนจิน ซึ่งเป็นเมืองท่าทางภาคเหนือของประเทศจีน ในกลางดึกของวันพุธที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน! ระเบิดแผดเสียงดังกัปนาทสองครั้ง เท่ากับระเบิดทีเอ็นที 3 ตัน และระเบิดทีเอ็นที 21 ตัน ตามลำดับ ทะเลเพลิงเผาผลาญทุกสิ่งอย่าง แรงระเบิดพังทำลายสิ่งต่างๆในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร บ้านเรือน โรงเรียน ถนนหนทาง เป็นต้น เปลวไฟ ควันมหึมาฟุ้งกระจายไปหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดบริเวณรอบๆจากจุดระเบิดในรัศมีสามกิโลเมตร

สื่อทางการจีนไชน่า เดลี่ รายงานความคืบหน้าล่าสุดในเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. ระบุตัวเลขเหยื่อระเบิด ได้แก่ ผู้เสียชีวิต 112 คน ผู้บาดเจ็บ 721 คน ในกลุ่มผู้บาดเจ็บนี้ 33 คน มีอาการสาหัส ผู้สูญหาย 95 คนโดยเป็นพนักงานดับเพลิง 85 คน

จุดที่เกิดระเบิดมหาประลัยนี้ เป็นโกดังเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าวัตถุอันตรายของบริษัท รุ่ยไห่ อินเตอร์เนชั่นนัล โลจิสติกส์ (Rui Hai International Logistics Co. Ltd.)

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบคอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าวัตถุอันตราย ได้แก่ โซเดียมไซยาไนด์(sodium cyanide) ซึ่งประมาณกันว่ามีหลายร้อยตัน นอกจากนี้มีสารเคมีอันตรายชนิดอื่นในโกดังเดียวกันนี้ ได้แก่ โพแทสเซียมไนเตรต(potassium nitrate) หรือดินประสิว , แอมโมเนียมไนเทรต (ammonium nitrate)

สำหรับแอมโมเนียมไนเทรต นี้จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุระเบิด ใช้ทำระเบิดแรงดันสูง กลุ่มลัทธิก่อการร้ายนิยมนำมาใช้ทำระเบิดโจมตี

.....สารเคมีเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ มีความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

“หากเปรียบเหตุระเบิดที่เขตเมืองใหม่ปินไห่นี้ ดั่งสงครามแล้ว ก็เป็น “สงครามอาวุธเคมีสุดเถื่อน”!”

ภาพโศกนาฏกรรมความเสียหายจากเหตุระเบิดที่ปินไห่ นครเทียนจิน กลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ของกลุ่มสื่อทั่วโลก กลบกลื่นข่าวกิจกรรมรำลึก 70 ปี ของการยุติสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ส.ค.ปีนี้

พนักงานดับเพลิงกำลังปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 13 ส.ค. หลังจากเหตุระเบิดที่เมืองใหม่ปินไห่ (ภาพ รอยเตอร์ส)

เปลวไฟยังลุกเผาไหม้รถยนต์เมื่อวันที่ 13 ส.ค. หลังเกิดระเบิดที่เขตเมืองใหม่ปินไห่ (ภาพ รอยเตอร์ส)

ซากตึกในปินไห่หลังเหตุระเบิด (ภาพ รอยเตอร์ส)

พนักงานดับเพลิงเดินอยู่ในบริเวณกองซากรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ควันโขมง ภาพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

ช่างภาพในบริเวณตึก ที่ผู้อยู่อาศัยย้ายออกไปหมดแล้ว ภาพเมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

สภาพตึกอพาร์ทเมนท์ที่อยู่อาศัยของประชาชนใกล้กับเขตระเบิด ผู้อาศัยในตึกที่ถูกโยกย้ายออกไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

เจ้าหน้าที่จากกองกำลังกึ่งทหารกำลังตรวจสอบวัตถุสารเคมีในจัตุรัสใกล้กับที่เกิดเหตุระเบิด ภาพเมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

ภาพถ่ายทางอากาศ พาหนะที่ถูกเผาไหม้ในเหตุระเบิดที่เมืองใหม่ปินไห่ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ เอพี)

พนักงานดับเพลิงสวมหน้ากากกันสารพิษขณะรออยู่ในรถใกล้ที่เกิดเหตุระเบิดฯ ภาพเมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ เอพี)

พนักงานดับเพลิงปรับหน้ากากกันสารพิษก่อนเข้าไปปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ เอพี)

หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดฯ มารักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 13 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

ชายคนหนึ่งกำลังพูดคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือเทียนจิน ภาพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

หวัง เป่าซย่า กำลังคุยกับผู้สื่อข่าว เรื่องพี่ชายที่สูญหายไป เมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ เอพี)

หญิงคนหนึ่งกำลังติดรายชื่อผู้สูญหายระหว่างเหตุระเบิด ที่ศูนย์อพยพสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถกลับไปบ้านที่เสียหายย่อยยับจากเหตุระเบิด ภาพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. (ภาพ เอพี)

ตำรวจจราจรสวมหน้ากากยืนอยู่ที่จุดตรวจความปลอดภัยใกล้ที่เกิดเหตุระเบิด ภาพเมื่อวันที่ 15 ส.ค. (ภาพ เอพี)

ประชาชนสวมหน้ากากเดินตามท้องถนนใกล้เขตที่เกิดเหตุระเบิดฯเมื่อวันที่ 13 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

ชาวเมืองจุดเทียนสวดมนต์ให้แก่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่สังเวยชีวิตในเหตุระเบิดที่เมืองใหม่ปินไห่ ภาพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

กลุ่มนักเรียนและครูในโรงเรียนจูจี้ มณฑลเจ้อเจียง จุดเทียนเป็นรูปตัวอักษร ที่หมายถึง “ขอให้เทียนจินรอดพ้นภยันตราย” ระหว่างพิธีจุดเทียนแด่เหยื่อเหตุระเบิดในเทียนจิน ภาพเมื่อวันที่ 13 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)

ชายจีนสวดมนต์ ก้มลงกราบรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เทพแห่งความเมตตาบริเวณหน้าตึกที่กำลังก่อสร้าง ที่วัดเฉาอิน นครเทียนจิน ภาพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)