เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เซินเจิ้นคว้าตำแหน่งเมืองที่มีศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดบนแดนมังกร เบียดฮ่องกงหล่นมาอยู่อันดับที่ 2 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
สถาบันสังคมศาสตร์ของจีนเปิดเผยผลสำรวจ ซึ่งมีชื่อว่า หนังสือปกน้ำเงินว่าด้วยการจัดอันดับเมืองที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ( Blue Book on Urban Competitiveness) ระบุว่า เขตปกครองพิเศษฮ่องกงถูกแซงหน้าก็เนื่องจากเมืองเซินเจิ้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านนวัตกรรมเป็นหลัก ในขณะที่ฮ่องกงยังคงพึ่งพาแต่อุตสาหกรรมหลักเดิม ๆ มากจนเกินไปทั้งในด้านการเงิน การขนส่งทางเรือ การท่องเที่ยว และการให้บริการระดับมืออาชีพ แต่ล้มเหลวในการสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ทำงาน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยี และอุตสาหกรรม ที่ไม่ใหญ่โต แต่เป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่
นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรก หลังจากฮ่องกงครองอันดับ 1 ในบรรดา 294 เมืองทั่วประเทศ รวมทั้งไต้หวันมาตั้งแต่ปี 2548
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติและสำมะโนครัวระบุว่า ในปี 2556 ฮ่องกงมีการใช้จ่ายด้านโครงการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาครัฐและเอกชนร้อยละ 0.73 ของจีพีดี
ขณะที่เซินเจิ้นมีการใช้จ่ายในเรื่องเดียวกันนี้ร้อยละ 4.05 ของจีดีพี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสำหรับปี 2557
การจัดอันดับศักยภาพในการแข่งขันพิจารณาเปรียบเทียบในหลายด้าน เช่น บรรยากาศทางธุรกิจ ความปรองดองในเมือง ประสิทธิภาพ ความเหมาะสมในการอยู่อาศัย และความยั่งยืน โดยนครเซี่ยงไฮ้อยู่อันดับ 3 กรุงไทเป อันดับ 4 และเมืองก่วงโจว อันดับ 5
รายงานผลสำรวจครั้งนี้ยังระบุด้วยว่า การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของขบวนการอ็อกคิวพายเซ็นทรัล และการประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนทำให้ฮ่องกงต้องสูญเสียตำแหน่งแชมป์ไปในที่สุด