เอเจนซี - ผู้นำจีนและอินเดียจับเข่าคุยปัญหาชายแดนข้อพิพาท ภาวะโลกร้อน ฯลฯ ตลอดจนเป็นสักขีพยานจรดปากกาลงนามข้อตกลงหมื่นล้านดอลลาร์มากกว่า 20 ฉบับ ในวันศุกร์ (15 พ.ค.) ที่ผ่านมา แถมปิดท้ายด้วยภาพเซลฟีของนายใหญ่รัฐบาลมังกร-ภารตะ
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน พบปะกับนายนเรนทรา โมดี นายกฯ อินเดีย ที่เดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ระยะเวลา 3 วัน ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง โดยทั้งสองนั่งโต๊ะถกประเด็นหลักอย่างการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนที่เรื้อรังมายาวนาน
แถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระบุว่า จีนและอินเดียเห็นพ้องจะจัดการเดินทางเยือนประจำปีของกองทัพแต่ละฝ่าย ขยับขยายการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้บังคับบัญชาเขตชายแดน และเริ่มใช้ ‘สายด่วนการทหาร’ มาช่วยปลดชนวนความตึงเครียดที่เพิ่มพูนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่มากกว่า 90,000 ตารางกิโลเมตร ทางภาคตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย ส่วนอินเดียก็กล่าวว่าจีนรุกยึดครองดินแดนขนาด 38,000 ตารางกิโลเมตร บนที่ราบสูงอักไสชินทางเหนือของประเทศ และตั้งแง่ว่าจีนกำลังสนับสนุนปากีสถานซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอินเดียอีกด้วย
“เราสามารถสร้างแรงกระเพื่อมบนเวทีการเมืองและเศรษฐกิจโลกสู่ทิศทางสมดุลได้” หลี่เอ่ยถึงเป้าหมายของปักกิ่งที่พยายามปัดกวาดอุปสรรค เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของสองยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ซึ่งจีนอ้างว่าอาจพลิกโฉมระเบียบการเมืองระหว่างประเทศ
“เราเชื่อมั่นว่าหากผลักดันการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ตัวแทนพิเศษ จะช่วยนำไปสู่วิธีแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรมสมเหตุสมผล และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันได้”
ด้านโมดีกล่าวว่า จีนจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนแนวทางปฏิบัติในบางประเด็น ซึ่งฉุดรั้งทั้งสองฝ่ายจากศักยภาพของความเป็นหุ้นส่วนอันดี โดยแนะนำจีนควรดำเนินความสัมพันธ์ด้วยยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ระยะยาว
แถลงการณ์เสริมว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยว่าการผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้งของอินเดียและจีนในภูมิภาคและโลกได้ชี้นำโอกาสการทำความเข้าใจ ‘ศตวรรษแห่งเอเชีย’ (Asian Century) มากขึ้น
จีนและอินเดียยังหารือการติดตามแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ซึ่งทั้งคู่ต่างขึ้นทำเนียบเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันดับหนึ่งและอันดับสามของโลกตามลำดับ
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจ รวมทั้งสิ้น 24 ฉบับ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นความร่วมมือด้านต่างๆ อาทิ การรถไฟ การสำรวจอวกาศ การขุดเหมืองแร่ วิทยาศาสตร์ทางทะเล การจัดการอาชีวศึกษา การค้าขาย และการท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดสถานกงสุลในกรุงเจนไนของอินเดียและนครเฉิงตูของจีน
ขณะที่อีกมุมหนึ่งของบรรยากาศความเป็นมิตรไมตรี ผู้นำอินเดียชักชวนนายกฯ หลี่ ร่วมถ่ายภาพเซลฟีหลังเยี่ยมชมหอฟ้าเทียนถัน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในกรุงปักกิ่ง ก่อนอัพโหลดขึ้นเว็บไมโครบล็อคเวยปั๋วและเว็บไซต์ทวิตเตอร์ที่เขาใช้งาน
“ถึงเวลาเซลฟี!” คำบรรยายภาพของโมดีในทวิตเตอร์ “ขอบคุณนายกฯ หลี่”
ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (14) ซึ่งเป็นวันแรกของการเยือนจีน นายกฯ อินเดียได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เป็นเจ้าภาพพาทัวร์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ณ บ้านเกิดของตนเองในนครซีอัน มณฑลส่านซี
สีบอกกับโมดีว่า จีนและอินเดียควรสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยการควบคุมความแตกต่างและเสริมสร้างความร่วมมือ โดยตระหนักถึงยุทธศาสตร์จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นหนุ่มสาว และการทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอระเบียบระหว่างประเทศในวิถึทางอันเหมาะสมและเป็นธรรม
อนึ่ง นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จะเดินทางเยือนขุมพลังทางเศรษฐกิจของจีนอย่างมหานครเซี่ยงไฮ้ในวันเสาร์ (16) เพื่อเยี่ยมเยียนชุมชนอินเดียท้องถิ่นและร่วมประชุมกับนักธุรกิจชั้นนำ ก่อนมุ่งสู่มองโกเลียและเกาหลีใต้ในลำดับต่อไป