เอเจนซี - สืบเนื่องจากกรณีภาพถ่ายของหมอและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแดนมังกร ที่ดันแชะภาพคู่กับคนไข้ซึ่งยังนอนสลบไสลอยู่บนเตียงผ่าตัด หลุดว่อนทั่วโลกออนไลน์ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูถึงความไม่ถูกต้องเหมาะสม
ล่าสุด กลุ่มสื่อจีนรายงาน (22 ธ.ค.) ว่า สำนักงานสาธารณสุขนครซีอัน มณฑลส่านซี ได้ประกาศคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่ 3 รายออกจากตำแหน่ง ประกอบด้วยรองประธานโรงพยาบาล หัวหน้าคณะแพทย์ผ่าตัด และหัวหน้าแผนกวิสัญญีแพทย์
ขณะเดียวกันก็ลงโทษทัณฑ์บนแก่ประธานบริหารของโรงพยาบาล แพทย์ผ่าตัด และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ปรากฏในภาพ ซึ่งถูกบันทึกเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2557 ภายในห้องผ่าตัดที่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการรักษาของโรงพยาบาลเอกชนเฟิ่งเฉิง
ชุดภาพอื้อฉาวดังกล่าวถูกโพสต์บนเว็บไซต์เวยปั๋ว (คล้ายทวิตเตอร์) ในวันเสาร์ (20 ธ.ค.) โดยผู้ใช้ที่อ้างว่าเป็นคนรู้จักของหมอคนหนึ่งในทีม เผยให้เห็นบรรดาหมอและเจ้าหน้าที่ส่งยิ้มและโพสท่าทางอยู่ข้างคนไข้ที่ยังคงนอนหมดสติอยู่บนเตียงผ่าตัด
“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมจึงเกิดปัญหาหมอกับคนไข้ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในจีน” คำบรรยายใต้ภาพกล่าว
แม้เจ้าของโพสต์จะลบรูปทิ้งในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่ทันชาวเน็ตที่พากันส่งต่อไปทั่วเวยปั๋ว โซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ที่สุดของจีน โดย ณ เวลา 14.00 น. ของวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้คลิกเข้าชมแล้วกว่า 9.9 ล้านครั้ง และแสดงความคิดเห็นมากกว่า 12,000 ข้อความ
บางส่วนแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรม ตำหนิติเตียนว่า “ไม่มีความเป็นอาชีพ”
“ผิดก็คือผิด … ไม่ว่าจะถ่ายก่อนหรือหลังผ่าตัด แต่คนไข้ยังไม่ทันฟื้น หมอก็มาเฮฉลองกันซะแล้ว”
“จรรยาบรรณและความเป็นมืออาชีพของพวกเขาหายไปอยู่ที่ไหนนะ?”
แต่ชาวเน็ตบางส่วน รวมถึงคนวงการแพทย์ ก็แสดงความเข้าอกเข้าใจการกระทำของหมอและพยาบาลกลุ่มดังกล่าว โดยรายหนึ่งที่ระบุว่าตนเองเป็นศัลยแพทย์กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการผ่าตัดอันเหน็ดเหนื่อยและท้าทาย คนเป็นหมอย่อมมีความสุขกว่าคนไข้ และการถ่ายภาพข้างเตียงผ่าตัดก็ยอมรับได้
ความเห็นของศัลยแพทย์นิรนามคนนี้ได้รับการกดไลค์มากกว่า 10,000 ครั้ง ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา พร้อมกับเสียงสนับสนุนจำนวนมาก
“ก็เหมือนกับที่เราๆ ถ่ายภาพห้วงเวลาแห่งความสุขใจ หมอก็แค่ฉลองกับความสำเร็จเท่านั้น”
“คุณย่อมเข้าไม่ถึงความรู้สึกวิตกกังวลและความยินดีปรีดาของหมอหรอก ถ้าไม่ได้เป็นคนทำการผ่าตัดน่ะ”
อย่างไรก็ดี หลังจากทางการนครซีอันแถลงบทลงโทษข้างต้น คลื่นความคิดเห็นลูกใหม่ก็ทยอยปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยบางส่วนเห็นด้วยกับการตัดสินใจของสำนักงานฯ แต่บางส่วนก็มองว่ามันรุนแรงเกินไป
กรณีความขัดแย้งระหว่างแพทย์หรือพยาบาลกับผู้ป่วยปรากฏบ่อยขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ โดยสถิติของสมาคมโรงพยาบาลจีนเผยว่า ปี 2555 พบเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์และพยาบาลในอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 สูงขึ้นจากปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 20.8
สมาคมชี้สาเหตุหลักว่ามาจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกันของทั้งสองฝ่าย ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก และความขุ่นเคืองส่วนตัวของคนไข้ ตลอดจนความแออัดของผู้ป่วยจำนวนมหาศาลที่ทำให้เกิดการดูแลไม่ทั่วถึง และค่าตอบแทนที่มีแนวโน้มลดลงจนก่อเกิดการรับสินบนจากผู้ป่วย
