xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อเศรษฐีใหม่จีน เรียนรู้มารยาทผู้ดีเก่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เกรียงไกร พรพิพัฒน์กุล

ชุดจิบน้ำชายามบ่าย หนึ่งในวัฒนธรรมผู้ดีมีฐานะ ไม่ต้องตรากตรำใช้แรงงานของอังกฤษ ที่จัดรวมอยู่ในหลักสูตรอบรมมารยาทสากลในการเข้าสังคม และเป็นเรื่องที่เหล่าเศรษฐีใหม่จีนต่างกำลังเรียนรู้ (ภาพรอยเตอร์ส)
สำเนียงบอกภาษา กิริยาบอกสกุลคืออย่างไร เหล่าเศรษฐีใหม่จีนในปัจจุบัน ก็ล้วนตระหนักเรื่องนี้ในใจเช่นกัน บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานกระแสความนิยมเข้าคอร์สอบรมมารยาทสากลของบรรดาเศรษฐีจีน เจ้าหน้าที่รัฐฯ นางงาม ฯลฯ ด้วยต่างเล็งเห็นว่า คือการแสดงสถานะเพื่อความยอมรับทางสังคมรูปแบบหนึ่ง นอกเหนือจากวัตถุสิ่งของที่พวกเขาใช้เงินซื้อหาได้ไม่ยาก

วิเวียน เนรี่ ผู้อำนวยการสถาบัน Villa Pierrefeu กล่าวว่า คนจีนจำนวนมากเริ่มเข้าใจสถานะของการเป็นชนชาติประเทศมหาอำนาจโลกยุคใหม่ของตน ทำให้จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะวางตัวอย่างผู้มีวัฒนธรรม อีกทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมของชาติเจริญแล้วอื่นๆ ตลอดไปจนถึงทักษะมารยาทการเข้าสังคมโลก เพื่อสร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ราบรื่น

เวทีประกวดนางงามโลก ก็เป็นอีกเวทีหนึ่งซึ่งสาวงามจากจีนก็ต้องรับหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนจีนเช่นกัน พวกผู้เข้าประกวดจึงต้องผ่านการอบรมหลักสูตรมารยาทสากล โดยเรียนรู้กันตั้งแต่ การเลี้ยงดูเด็ก มารยาทบนโต๊ะอาหาร ตลอดจนสำเนียงออกเสียงที่ถูกต้องของยี่ห้อสินค้าแบรนด์หรูหราต่างๆ

ซารา-เจน โห ผู้ก่อตั้งโรงเรียนมารยาทสากลในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ลูกศิษย์ของโรงเรียนฯ ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ต้องออกงานสังคมต่างประเทศ พวกเขามาเรียนเพื่อปรับตัวไปใช้ทำงานและวางตัว สร้างสัมพันธ์ธุรกิจการค้า

โห ซึ่งสำเร็จการศึกษาทางด้านการพัฒนาบุคลิกภาพสากล จากสถาบัน Villa Pierrefeu ในสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในโรงเรียนมารยาทผู้ดีชั้นนำของโลก กล่าวว่า โรงเรียนของเธอมีลูกศิษย์นับร้อยคนแล้ว และกำลังจะเปิดสาขาฯ ในเซี่ยงไฮ้ เดือนพฤษภาคมนี้

จากข้อมูลของฟอร์บส และบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ระบุว่าจีนมีจำนวนมหาเศรษฐีระดับพันล้าน 190 คน และที่รวยระดับเงินล้านอีกถึง 2 ล้านคน โดยหลายๆ คน ร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากโอกาสทางเศรษฐกิจในจีน คนเหล่านี้บอกว่า ตัวเองแม้จะมั่งมี แต่ก็ไม่เคยเรียนรู้ความเป็นผู้ดีมีราศีแต่อย่างใด เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคมระดับฐานะเศรษฐี

โห กล่าวว่า 30 ที่ผ่านมา จีนเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก และเป็นแรงกดดันในระดับปัจเจกชน บรรดาผู้ที่มาอบรมมารยาทสากลนี้ ยังมีตั้งแต่ เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ เด็กนักเรียนจีนที่จะไปศึกษาต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งภรรยาแม่บ้านของเหล่านักธุรกิจ เจ้าหน้าที่ที่ต้องรับหน้าที่ดูแลแขกพิเศษของสามี

เจมส์ เฮบเบิร์ต ผู้ฝึกอบรมจาก Seatton โรงเรียนมารยาทผู้ดีอังกฤษ ที่เปิดสาขาในจีน กล่าวว่า ความนิยมในการพัฒนาบุคลิกภาพของคนจีนนับวันจะมีมากขึ้น แม้กระทั่งคนขับรถก็มาเรียน เพราะคนเหล่านี้ เห็นโอกาสของความก้าวหน้าจากบุคลิกภาพสากล แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเลื่อนหรือลุกจากเก้าอี้ การปอกผลไม้ด้วยมีด หรือการใช้ซ่อมทานอาหารก็เช่นกัน

ลูกค้าคนหนึ่ง ที่เรียนกับเฮบเบิร์ต บอกว่าตอนนี้เธอรู้แล้วและคิดว่าครั้งต่อไป ถ้าไปเที่ยวมิลาน อิตาลี นั่งทานอาหารค่ำในภัตตาคารหรู เธอจะสามารถบอกสามีให้จับมีดหั่นเนื้ออย่างไร ไม่ให้เหมือนจะแทงหรือขุดดิน

รายงานข่าวกล่าวว่า สนนราคาค่าอบรมฯ นั้น เฮบเบิร์ตคิดที่ 20,000 หยวนต่อกลุ่ม 10 คน ขณะที่สถาบันอย่าง Sarita ซึ่งมีคอร์ส เจ้าภาพ นั้น เปิดสอนด้วยค่าเล่าเรียน 100,000 หยวน ต่อระยะเวลาอบรม 12 วัน ซึ่งลูกค้าจะได้เรียนรู้ประสบการณ์และทักษะตั้งแต่การวางตัว ประเด็นสนทนาที่ควรและไม่ควร ไปจนถึงการวางมือจับแก้วไวน์แต่ละชนิดบนโต๊ะอาหารค่ำ

การขาดบุคลิกภาพมารยาทสากลนี้ เป็นข้อจำกัดของโอกาสความก้าวหน้า และได้รับเกียรติจากผู้อื่น ซึ่งเหล่าผู้นำจีนล้วนตระหนักในเรื่องนี้ และเน้นย้ำในหลายโอกาสกับนักท่องเที่ยวจีนในประเทศต่างๆ (ปี 2557 มีมากกว่า 100 ล้านคน) โดยไม่ต้องการให้บุคลิกไม่งามเป็นเหตุให้เกิดการหยามเหยียด ไม่ต้อนรับและขึ้นบัญชีดำ

ยู่ว์-ไซ คัน ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน กล่าวว่า คนจีนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักบุคลิกมารยาทสากล เพราะไม่ได้รับการอบรมจากพ่อแม่ ซึ่งต่างล้วนเติบโตในยุคยากเข็ญ ปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนเอาตัวรอด พวกเขาจึงไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ส่วนตัว การเติบโตในบรรยากาศปฏิวัติวัฒนธรรมก็เป็นเหตุที่เข้าใจได้ว่า จริตนิสัยเยี่ยงชนชั้นผู้ดีนั้นคือ ภัยของสังคมทีเดียว

"ประมาณว่า ความดิ้นรนเพื่อหากินท่ามกลางความยากไร้ อดมื้อกินมื้อในอดีต ทำให้พวกเขาไม่คุ้นเคยกับมารยาทสังคม และพื้นที่ส่วนตัว ดั้งนั้น จึงไม่แปลกที่เรื่องการผลักเบียด แย่งคิว พูดเสียงดัง ฯลฯ มักเป็นพฤติกรรมที่่ยังพบเห็นทั่วไปในประเทศจีนและคนจีนรุ่นนี้ เพียงแต่ว่าเมื่ออกไปทำอย่างนั้นนอกบ้านเมื่อไหร่ ก็กลายเป็นสิ่งที่ถูกมองในแง่ลบเสมอ" ซารา-เจน โห กล่าว

ด้านเฮบเบิร์ต ยังคงย้ำว่า วันนี้คนจีนจำนวนมากเข้าใจแล้วว่า ความไม่รู้มารยาทนั้นมีผลอย่างไร และพฤติกรรมเดิมๆ ที่คุ้นเคยนั้น ต่างจากมาตรฐานสากลอย่างไร ซึ่งพวกเขาก็กำลังเรียนรู้เพื่อใช้ความได้เปรียบ เพื่อไปที่ไหนใครๆ ก็ต้อนรับจากบุคลิกภาพเศรษฐีใหม่ ผู้ดีเก่านี้

"เมื่อก่อน ความรวยอวดกันด้วยรถยนต์ใหญ่โต แต่ตอนนี้ มารยาทความเป็นผู้ดีมีอะไรให้อวดมากกว่า และพวกเขากำลังขวนขวายเพื่อสิ่งที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป" เจมส์ เฮบเบิร์ต ผู้ฝึกอบรมจาก Seatton กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น