นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจวกแผนส่งออก ‘กากนิวเคลียร์’ ของรัฐบาลไต้หวัน

ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเอฟพี - กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในไต้หวันวิจารณ์แผนส่งกากกัมมันตรังสีเก่าไปต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 356 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ชี้หาทางต่ออายุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งที่ถึงกำหนดปลดระวาง

บริษัทการไฟฟ้าไต้หวัน หรือไทพาวเวอร์ (Taipower) ที่บริหารงานโดยรัฐบาลไต้หวัน รายงานเมื่อวันอังคาร (17 ก.พ.) ว่าบริษัทได้เปิดประมูลการแปรสภาพแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว จำนวน 1,200 แท่ง ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งที่หนึ่งและสองเป็นครั้งแรก

โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์สองแห่งแรกของไต้หวันเริ่มเดินเครื่องมาตั้งแต่ปี 2521 และ 2524 ตามลำดับ โดยต่างมีกำหนดปลดระวางการทำงานหลังครบระยะ 40 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ไทพาวเวอร์เปรยว่าอาจยุติหรือปลดระวางเร็วกว่ากำหนด ด้วยปริมาณกักเก็บแท่งฯ ถึงระดับสุทธิแล้ว

อย่างไรก็ดี นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางส่วนตำหนิแผนล่าสุดว่า ไทพาวเวอร์กำลังดิ้นรนยืดเวลาของโรงไฟฟ้าฯ ออกไป โดยองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อการปลดนิวเคลียร์แห่งชาติ (National Nuclear Abolition Action) ในไต้หวันแถลงว่า “ไร้สาระที่จะส่งแท่งเชื้อเพลิงเก่าไปแปรสภาพแล้วนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เพราะไต้หวันไม่ได้กำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกต่อไป”

“ชัดเจนว่าไทพาวเวอร์เร่งรีบดำเนินการดังกล่าวเพราะโรงไฟฟ้าฯ แห่งแรกใกล้ถูกสั่งปิดตัวหากล้มเหลวจะจัดการขยะนิวเคลียร์ ซึ่งหมายถึงแผนผลักดันการต่ออายุโรงไฟฟ้าฯ จะตกหายไปด้วย”

ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันต้องเผชิญแรงกดดันจากสาธารณชน ที่ไม่ปลาบปลื้มโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์สักเท่าไร ด้วยวิตกกังวลด้านความปลอดภัยหลังเหตุโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ถูกสึนามิถล่มเมื่อปี 2554 จนสร้างหายนะร้ายแรงจากการแพร่กระจายของกัมมันตรังสี โดยปีก่อนไต้หวันต้องชะลอโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ แห่งที่ 4 หลังประชาชนหลายหมื่นคนเดินขบวนประท้วงในกรุงไทเปและเมืองใหญ่อื่นๆ

ขณะที่รัฐบาลกล่าวว่าไต้หวันจะไร้แหล่งผลิตไฟฟ้าหากละทิ้งพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งโรงไฟฟ้าฯ ทั้งสามแห่งในปัจจุบันช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์ของการใช้ไฟฟ้าทั่วทั้งเกาะ

ด้านไทพาวเวอร์ชี้แจงว่าเทคโนโลยีของการแปรสภาพแท่งเชื้อเพลิงเก่าเพื่อนำมาใช้ใหม่นั้นมีประสิทธิภาพสมบูรณ์ หลายประเทศ อาทิ เยอรมัน ญี่ปุ่น และอิตาลี ก็ส่งออกกากนิวเคลียร์ไปเข้ากระบวนการแปรสภาพฯ โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า บริษัทหลายแห่งทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย แสดงความสนใจจะประมูลแผนการดังกล่าว

“เราจำเป็นต้องจัดการแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วเหล่านี้ หากเราไม่ทำก็ดูไร้ซึ่งความรับผิดชอบ จึงไม่มีเหตุผลที่จะมาต่อต้านแผนการแปรสภาพฯ ณ ต่างประเทศนี้” แถลงการณ์ของไทพาวเวอร์ระบุ