จีนไล่ปิดบัญชีผู้ใช้ "วีแชต" เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนประวัติศาสตร์

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลด้านการใช้อินเทอร์เน็ตของจีนปิดบัญชีผู้ใช้วีแชตมากกว่า 130 บัญชี โทษฐานเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนประวัติศาสตร์ของประเทศและการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์
คณะกรรมการกำกับดูแลภาคไซเบอร์สเปซ (Cyberspace Administration) หรือ สำนักข้อมูลข่าวสารอินเทอร์เน็ตแห่งรัฐ (State Internet Information Office) ประกาศปิดบัญชีผู้ใช้วีแชต (WeChat) จำนวน 133 บัญชี หลังตรวจสอบแล้วพบว่า เผยแพร่ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความลับที่บิดเบือนประวัติศาสตร์กันอย่างโจ่งแจ้ง หนึ่งในนั้นคือบัญชีผู้ใช้ที่ชื่อว่า “This is not History” ทั้งนี้ทั้งนั้น ในแถลงการณ์ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด

ด้านเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและติดตามดูการเผยแพร่ข้อมูลของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแผ่นดินใหญ่ ระบุว่า หลายเว็ปไซต์ของจีนได้ทำการลบโพสต์ที่มีเนื้อหาลามกและเป็นอันตรายออกไปมากกว่าหนึ่งพันล้านโพสต์แล้ว ซึ่งการลบโพสต์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในการปัดกวาดทำความสะอาดโลกอินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้ ในบรรดาโพสต์ที่ถูกลบนั้น พบว่า 220 ล้านโพสต์ปรากฏอยู่ในเว็ปไซต์เกตเวย์ชั้นนำ 4 เจ้า ได้แก่ ซีน่า (Sina) โซหู (Sohu) เทนเซ็นท์ (Tencent) และ เน็ตอิส (NetEase) ส่วนเสิร์ชเอ็นจินหลักรายใหญ่สองรายของจีน ได้แก่ ไป่ตู้ (Baidu) และ ฉีหู่ 360 (Qihoo 360) ลบไป 130 ล้านโพสต์

นอกจากนี้ยังมีการปิดเว็ปไซต์ไปประมาณ 2,200 ราย รวมทั้งปิดพวกฟอรั่ม บล็อก และบัญชีผู้ใช้ในสังคมออนไลน์ที่นำเสนอข้อมูลเนื้อหาโป๊เปลือยและผิดกฎหมาย รวมกว่า 20 ล้านเพจ

นายหลู่ เว่ย อดีตหัวหน้ากรมโฆษณาการปักกิ่ง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวฝ่ายควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เนต ยืนยันว่าการเซ็นเซอร์การใช้งานอินเทอร์เน็ตในจีนเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากการรักษาเสถียรภาพภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวด

ในขณะที่ ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ผู้ใช้งานอีเมล์จากเอาท์ลุค (Outlook) ของไมโครซอฟท์ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มแฮคข้อมูล หลังจากที่แผ่นดินใหญ่บล็อกระบบจีเมล์ (gmail) ของกูเกิลไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน หน่วยเซนต์เซอร์ระบบออนไลน์ของจีน ระบุ

“หากสิ่งที่พวกเรากล่าวหาถูกต้อง การโจมตีรอบใหม่นี้ส่งสัญญาณให้เห็นว่า ทางการจีนตั้งใจจะเดินหน้าปราบปรามวิธีการสื่อสารที่พวกเขายังสอดส่องได้ไม่ทั่วถึง” เกรทไฟเออร์ ดอทโออาร์จี (GreatFire.org) ระบุไว้บนเว็ปไซต์ของตนเอง