นานมาแล้วมีชายกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย คุยไปๆ จนคุยไปถึงเรื่องว่าสวรรค์อยู่ห่างจากผืนดินเท่าใดกันแน่ โดยต่างคนก็ต่างออกความเห็นกันไปคนละทิศละทาง ยืนกรานว่าทัศนะของตัวเองถูกต้องที่สุด
สักพักก็มีชาวนาผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเรื่องราวที่ทั้งหมดคุยกัน จึงพูดสอดแทรกขึ้นว่า “พวกลื้อจะเถียงกันไปทำไม สวรรค์อยู่ห่างจากดินก็แค่สามสี่ร้อยลี้ หากเดินจากตรงนี้ขึ้นไปสวรรค์ ถ้าเดินช้าหน่อยก็สัก 4 วันถึง ถ้าเดินเร็วหน่อยก็ 3 วันถึง เดินไปเดินกลับ 6-7 วันก็น่าจะเหลือเฟือ พวกลื้อจะเสียเวลามาเถียงกันทำไม อั๊วไม่เข้าใจริงๆ?”
ชายกลุ่มดังกล่าวเมื่อได้ยินชาวนาอธิบายระยะห่างระหว่างพื้นดินกับสวรรค์อย่างมั่นอกมั่นใจต่างก็อ้าปากค้าง ก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า สาเหตุที่ชาวนากล่าวเป็นมั่นเป็นเหมาะเช่นนี้มีหลักฐานอะไรมายืนยันหรือไม่?
ชาวนาจึงกล่าวตอบไปว่า “พวกลื้อไม่เคยเห็นประเพณีส่งเทพเจ้าเตาไฟ (灶神) ขึ้นสวรรค์หรอกหรือ ทุกปีพอถึงวันที่ 23 ของเดือนสิบสอง เมื่อส่งเทพเจ้าเตาไฟขึ้นสวรรค์ไปรายงานเง็กเซียนฮ่องเต้ (送灶) พอวันที่ 30 เดือนสิบสอง สิ้นปีก็เป็นพิธีรับเทพเจ้าเตาไฟกลับมาจากสวรรค์ (迎灶) จากวันที่ 23 ถึง 30 ก็แค่เจ็ดวันเท่านั้นเอง หากตีเป็นระยะทาง ครึ่งนึงของเจ็ดวันก็น่าจะประมาณสามสี่ร้อยลี้ คิดไปคิดมาสวรรค์ก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ประมาณนี้นั่นแหละ!"
เรียบเรียงจาก 《笑林广记》โดย เฉิงซื่อเจี๋ยว์ (程世爵), ราชวงศ์ชิง
*หมายเหตุ : ประเพณีเซ่นไหว้เทพเจ้าเตาไฟ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีน (春节) โดยการเซ่นไหว้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 หรือ 24 ของปีเก่า โดยประเพณีเป็นประเพณีที่แพร่หลายในหมู่ชาวจีนทั่วประเทศ เนื่องจากทุกบ้านต่างมีเตาไฟเพื่อใช้ประกอบการหุงหาอาหาร ทำให้ชาวจีนเชื่อว่าเตาไฟนั้นมีเทพเจ้าสถิตย์อยู่ โดยที่ชาวจีนเรียกว่า เทพเจ้าเตาไฟ หรือ เจ้าเสิน (灶神)
นอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่อด้วยว่าเทพเจ้าเตาไฟสถิตอยู่ในบ้านมาตั้งแต่วันสิ้นปีของปีที่แล้ว เพื่อปกปักรักษาดูแลบ้านเรือน กระทั่งถึงวันที่ 23 ของเดือนสิบสองของทุกปี เทพเจ้าเตาไฟจึงจะขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อรายงานพฤติกรรมของคนในบ้านต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ ด้วยเหตุนี้เองชาวจีนจึงมีประเพณีการส่งเทพเจ้าเตาไฟเรียกว่า “ซ่งเจ้า (送灶)” จากนั้น เง็กเซียนฮ่องเต้จึงอาศัยรายงานของเทพเจ้าเตาไฟ เพื่อบันดาลโชคลาภที่แต่ละบ้านแต่ละครอบครัวพึงได้ให้ในช่วงตรุษจีน ด้วยเหตุนี้สำหรับครอบครัวๆ หนึ่งแล้ว การกลับขึ้นไปบนสวรรค์ของเทพเจ้าเตาไฟเพื่อรายงานเรื่องราวของบ้านต่อเง็กเซียนฮ่องเต้จึงมีความสำคัญอย่างมาก
ทั้งนี้ พิธีการส่งเทพเจ้าเตาไฟขึ้นสวรรค์จะทำกันเวลาเย็น โดยทุกคนในบ้านจะวางโต๊ะหน้าเตาไฟ บนผนังมีรูปเทพเจ้าปิดอยู่ และวางพวกขนมหวาน หรือขนมพวกแป้ง หรือแตงเชื่อม จากนั้นวางรูปม้าหรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งใช้ไม้ไผ่สานขึ้นมาเซ่นไหว้เทพเจ้าเตาไฟ โดยมีจุดประสงค์ให้เทพเจ้าเตาไฟปากหวาน หรือ บางท้องที่ก็มีการใช้น้ำตาลเหนียวๆ ป้ายบริเวณรอบ ๆ ปากของเทพเจ้าเตาไฟ พร้อมกับพูดว่า “คำพูดดีๆ พูดเยอะๆ คำพูดไม่ดีอย่าพูด”
จากนั้นเมื่อผ่านพ้นพิธีไปแล้ว หลังจากนั้นอีก 7 วัน เทพเจ้าเตาไฟก็จะนำโชคลาภหรือเภทภัยกลับมายังพื้นโลกพร้อมกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ โดยเทพเจ้าเตาไฟถูกมองว่าเป็นผู้นำทางบนสวรรค์ เทพเจ้าองค์อื่นหลังอยู่ฉลองตรุษจีนแล้วจะกลับขึ้นสวรรค์ไป มีเพียงเทพเจ้าเตาไฟเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในห้องครัวของบ้านเรือนและครอบครัวต่างๆ อีกยาวนานทั้งปี พิธีรับเทพเจ้าเตาไฟเรียกว่า “หยิงเจ้า (迎灶)” โดยจะรับกันในวันสิ้นปี หรือวันที่ 30 เดือนสิบสอง โดยพิธีการก็ง่ายๆ คือเมื่อถึงเวลาจุดไฟเตาใหม่และจุดธูปไหว้ ก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี