เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกษตรกรคนหนุ่มสาวบนแดนมังกรกำลังเปลี่ยนรูปแบบวิธีการจำหน่ายผลิตผลในไร่นา โดยอาศัยความช่ำชองด้านเทคโนโลยีเปิดร้านขายผักผลไม้ในโลกออนไลน์ ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป
จากรายงานของ AliReserch.com สาขาฝ่ายวิจัยของบริษัทอาลีบาบา เกษตรกรรุ่นใหม่นี้มีอยู่ราว 1 ล้านคน และกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ โดยสินค้าเกษตร ที่ขายผ่านทางเถาเป่า ( Taobao.com) เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของจีน มีมูลค่าสูงถึงราว 3,700 ล้านหยวน หรือราว 18,500 ล้านบาท ในปี 2553 และ 40,000 ล้านหยวน หรือราว 200,000 ล้านบาท ในปี 2556
“ เกตรกรแบบเดิมไม่มีปากเสียงในการกำหนดราคา แต่อี-คอมเมิร์ซทำให้ได้เจอกับผู้บริโภคโดยตรง เพิ่มอำนาจต่อรองอีกเยอะเลย” นายเฉิน เหลียง แห่ง AliReserch.com ระบุ
นาย ตู้ เฉียนลี่ ดีกรีมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงเมื่อปี 2551 ฉีกแนวจากเพื่อนนักศึกษาส่วนใหญ่ในรุ่นเดียวกัน ที่เข้าทำงานในบริษัท แต่เขาหวนกลับคืนถิ่นกำเนิด ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกล ตั้งอยู่บนภูเขาไท่หัง แล้วเริ่มต้นอาชีพเปิดร้านขายสินค้าพื้นเมืองออนไลน์ ท่ามกลางสายตาดูหมิ่นของชาวบ้าน ที่พากันสงสัยว่า เขาหอบปริญญามาจมปลักทำไม่ที่นี่
ทว่าทุกวันนี้ ตู้สามารถทำกำไรได้จากธุรกิจดังกล่าวถึงเดือนละไม่ต่ำกว่า 100,000 หยวน หรือราว 500,000 บาท
นายตู้เปิดหน้าร้านขายสินค้าเกษตรออนไลน์ในช่วงที่เกษตรกรจีนกำลังหันมาทำฟาร์มด้วยวิธีการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น และเขาเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่พืชผลเกษตรอินทรีย์
รายงานของ AliReserch.com ระบุว่า เกษตรกรแบบเดิมในจีนเป็นพวกที่ปลูกพืชผักผลไม้แปลงเล็ก ๆ ไม่กี่แปลง และไม่มีช่องทางเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับตลาด แต่เกษตรกรรุ่นใหม่จะเป็นพวกคนหนุ่มสาว ซึ่งได้รับการศึกษาดี รอบรู้เทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ รับผิดชอบต่อสังคม และมีไหวพริบ เข้าใจตลาดดีกว่า
การหันมายึดอาชีพด้านการเกษตรของคนรุ่นใหม่ ที่จบการศึกษาสูงยังมีส่วนช่วยให้เกิดความปลอดภัยด้านอาหารมากขึ้น และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างแบรนด์ผู้ผลิต ที่แข็งแกร่ง
ความปรารถนาที่จะรักษารสชาติดั้งเดิมของอาหารไว้ได้จุดแรงบันดาลใจให้นายหยัง จงเฉียง หันหลังให้งานตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัทสัญชาติอังกฤษในนครเซี่ยงไฮ้ กลับมาปลูกผักออร์แกนิกขายที่บ้านเกิดในมณฑลหูหนัน
ไม่ว่าโลกจะผันเปลี่ยนไปเท่าใด แต่เขาตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี และฮอร์โมนอย่างเด็ดขาด
ส่วนนายตู้กล่าวว่า เมื่อเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ นั้น เขาไม่สามารถสั่งเกษตรกร ที่ขายสินค้าให้เขาได้ว่า เขาต้องการให้ปลูกพืชอย่างนั้นอย่างนี้
ทว่าพอคำสั่งซื้อหลั่งไหลล้นหลาม เขาจึงตั้งสหกรณ์เกษตร ซึ่งผู้ปลูกต้องปฏิบัติตามมาตรฐานในการเพาะปลูก ที่เขากำหนดขึ้น
“ พอเราไม่ใช้เคมี พริกของเราผลผลิตลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง แต่คุณภาพดีขึ้น และราคาก็สูงขึ้นตามมา ซึ่งเราได้ค่าชดเชยจากตรงนั้น ผู้บริโภคเต็มใจจ่ายตราบใดที่ได้รับประกันว่า สินค้ามีคุณภาพดีขึ้น” เขาอธิบาย
ธุรกิจขายสินค้าเกษตรระบบอี-คอมเมิร์ซของหนุ่มสาวชาวจีนรุ่นใหม่มีอนาคตสดใส และมีโอกาส ที่จะขยายใหญ่มากกว่าการเป็นเพียงแค่ธุรกิจเพื่อการเลี้ยงชีพเท่านั้น ตามความเห็นของนาย หวัง หงปัว ประธานบริษัทผิงอันซีเคียวริตี้ส์