มรสุมชีวิตบริษัทแอปเปิลบนแดนมังกร ล่าสุดไอโฟนถูกระแวงเป็นเครื่องมือจารกรรม

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - แอปเปิ้ลบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ถูกมรสุมกระหน่ำระลอกแล้วระลอกเล่าในตลาดแดนมังกร ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญจีนไม่ไว้ใจบริการจีพีเอสบนไอโฟน หวั่นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ

ทางการจีนกำลังเพ่งเล็งระบบปฏิบัติการ iOS 7 ของไอโฟนรุ่นที่ออกจำหน่ายเมื่อเดือน ก.ย ปี 2556 ซึ่งมีฟังก์ชั่น frequent locations ที่สามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดตำแหน่งและเวลาของผู้ที่กำลังใช้ไอโฟนอยู่ในขณะนั้น โดยหม่า ติง ผู้อำนวยการสถาบันความความปลอดภัยด้านอินเทอร์เน็ตของมหาวิทยาลัยพิทักษ์สันติราษฎรแห่งประชาชน(People's Public Security University) ในกรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือ ซีซีทีวีเมื่วันศุกร์ (11ก.ค.)ว่า ฟังก์ชั่น frequent locations อาจถูกนำมาใช้เพื่อรวบรวม “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง” หรือแม้แต่ความลับของชาติ

หม่าได้อ้างกรณีนักข่าวผู้หนึ่ง ซึ่งถูกสะกดรอยตามด้วยซอฟต์แวร์ตัวนี้ เป็นตัวอย่างความวิตกเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม แอปเปิลได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงด้วยภาษาจีนและภาษาอังกฤษทางเว็บไซต์ของแอปเปิลในจีน โดยปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาของหม่าว่า แอปเปิลไม่เคยสร้างรหัสลับสำหรับให้หน่วยงานของรัฐบาลชาติใดสามารถเข้าโปรแกรมในบริการหรือผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลได้

แอปเปิลยังย้ำด้วยว่า บริการระบุพิกัดตำแหน่ง (GPS geolocation services) ของไอโฟนมีไว้สำหรับใช้งานประเภทการค้นหาร้านอาหาร ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่สุด การตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศ หรือคำนวณเวลาในการเดินทางไปทำงานก็เท่านั้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่แอปเปิล เผชิญปัญหายุ่งยากในตลาดแดนมังกร ซึ่งสินค้าของแอปเปิลกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางการครองตลาดของสมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลก็เพิ่งแพ้คดีสิทธิบัตรซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียงให้กับบริษัทของจีน ทำให้ไม่สามารถใช้โปรแกรม “Siri” ของไอโฟนในประเทศจีนได้

ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือน มี.ค. 2556 แอปเปิลยังตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์เละเทะจากสื่อมวลชนจีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนผู้บริโภค ที่ไม่พอใจบริการหลังการขายที่ห่วยแตกของแอปเปิล

นอกจากนั้น ในปี 2555 แอปเปิลยังต้องควักเงินจ่ายจำนวน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อยุติศึกเครื่องหมายการค้าของไอแพดกับบริษัทของจีนแห่งหนึ่งอีกราย

ทั้งนี้ การจารกรรมกลายเป็นปัญหาอันตึกเครียดของทั้งสหรัฐฯและปักกิ่ง ซึ่งต่างก็กล่าวหากันว่าดำเนินการสอดแนมในโลกไซเบอร์ของอีกฝ่าย