เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -อดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เผิงยุติข่าวลือ ที่มีมานมนานว่า เขาเป็นบุตรชายบุญธรรมของนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแห่งแดนมังกรในบันทึกความทรง ซึ่งเขาเขียนขึ้นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องราวในครอบครัวอย่างละเอียด
นักวิชาการและบุคคลอื่น ๆ เคยตั้งข้อสังเกตกันว่า การผงาดขึ้นสู่อำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์ของนายหลี่นั้นมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากความสัมพันธ์ของเขากับนายโจว ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่ง ที่ร่วมก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
“ บางคนกล่าวว่า ผมเป็นลูกบุญธรรมของนายกรัฐมนตรีโจว นี่ไม่ถูกต้อง” นายหลี่ยืนยันในบันทึกความทรงจำ
นายหลี่ วัย 85 ปี ได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจนถึงปี 2526 ไว้ในหนังสือบันทึกความทรงจำเล่มนี้ ทว่ามิได้เอ่ยถึงเหตุการณ์นองเลือดที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้ประกาศกฎอัยการศึกในกรุงปักกิ่ง ก่อนการเคลื่อนกำลังทหารเข้าบดขยี้ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย
เขาบรรยายความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับบรรดาผู้นำการปฏิวัติของจีน อาทิ ท่านประธานเหมา เจ๋อตง นายโจวและนางเติ้ง อิ่งเชา ผู้เป็นภรรยา โดยระบุว่า นายโจวและนางเติ้งไร้ทายาทสืบสกุล ส่วนบิดาของเขาคือนายหลี่ ซัวซุ่น นั้นเป็นนักปฏิวัติรุ่นแรกสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ และถูกพวกพรรคก๊กมินตั๋งฆ่าเมื่อปี 2474 เวลานั้น นายหลี่อายุเพียง 3 ขวบ
“ ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีโจวและคุณแม่เติ้งนั้นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกพรรคอาวุโสกับลูกหลานของผู้ที่ได้เสียสละชีวิต ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” เจ้าของบันทึกชี้แจง
“ พวกเราทุกคนเรียกพวกท่านว่า ลุงโจวกับคุณแม่เติ้ง เพราะท่านได้เลี้ยงดูเอาใจใส่บุตรหญิงบุตรชายของสหายในพรรค ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา”
นายหลี่พบหน้านางเติ้งครั้งแรกในเมืองเฉิงตูเมื่อปี 2482 นางได้พาเขาไปอาศัยที่บ้านของนายโจว ซึ่งเวลานั้นอยู่ที่เมืองเหยียนอัน ซึ่งเป็นกองบัญชาการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ในมณฑลส่านซี
ตามที่เล่าในบันทึกความทรงจำนั้น นายหลี่ไม่เคยพบกับนายโจวเลย จนกระทั่งทั้งสองได้มาเจอกันเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2483
นายโจวได้ทดสอบความรู้ ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาของนายหลี่ โดยขอให้เขาอ่านและวิจารณ์บทบรรณาธิการชิ้นหนึ่งในซินหวา ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของพรรคคอมมิวนิสต์ นอกจากนั้น ยังบอกให้เขาแก้ไขนิสัยชอบยืนหลังค่อมอีกด้วย
นายหลี่พูดถึงนายโจวว่า เป็นคนที่ “เข้มงวดพิถีพิถัน” และ “มีความรับผิดชอบ” ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เอง ที่ทำให้มีการปรับปรุงแก้ไขความอยุติธรรมบางอย่าง ที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรมบนแผ่นดินมังกร
ส่วนนางเติ้งนั้นได้ยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวของนายหลี่ในคราวที่ จู หลิน ภรรยาของเขาพลัดตกจากรถโดยสารประจำทาง ขณะกำลังตั้งครรภ์ อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อสิ้นเดือนพ.ค. ปี 2502 จูต้องคลอดลูกก่อนกำหนด ซึ่งก็คือนายหลี่ เสี่ยวเผิง ผู้ว่าการมณฑลซานซีคนปัจจุบัน
ตอนนั้น เกรงกันว่า จูอาจแท้ง มารดาของนายหลี่จึงขอความช่วยเหลือจากนางเติ้ง ซึ่งได้ติดต่อกับสูติแพทย์ ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนียน
อาการของจูสาหัส แต่ในที่สุดทั้งแม่และลูกก็ปลอดภัย โดยนายหลี่ เสี่ยวเผิงเกิดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2502 ขณะนั้น นายหลี่ทำงานเป็นรองหัวหน้าวิศวกรที่โรงไฟฟ้าในมณฑลจี๋หลิน และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย
นายหลี่เปิดเผยว่า เขาได้ทำหมัน ภายหลังจากหลี่ เสี่ยวหลิน บุตรสาว และหลี่ เสี่ยวหยง บุตรชายคนที่ 2 ถือกำเนิด โดยปัจจุบันบุตรสาวเป็นหัวหน้าบริษัทไชน่า พาวเว่อร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดิเวลอปเมนต์ ( China Power International Development) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงาน
การทำหมันของนายหลี่เกิดขึ้น ก่อนหน้าที่จีนจะประกาศใช้นโยบายลูกคนเดียว