เอพี - จีนส่งเอกสารฯ ถึงยูเอ็น ลั่นเวียดนาม “คุกคามอธิปไตยและพลเมืองแดนมังกร” ที่ทำงานอยู่บนแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลจีนใต้
นายหวัง หมิน รองเอกอัครราชทูตจีน ได้ยื่น “เอกสารแสดงความคิดเห็น” (Position paper) ถึงนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) ในวันจันทร์ (9 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงกรณีความขัดแย้งกับประเทศเวียดนามในประเด็นคำสั่งดำเนินงานแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลจีนใต้ โดยกล่าวหารัฐบาลฮานอยว่าได้ละเมิดอำนาจอธิปไตยและขัดขวางการปฏิบัติงานของบริษัทน้ำมันของจีนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้เผยแพร่เอกสารฯ ไปยังสมาชิก 193 ราย ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติอีกด้วย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้จีนได้จัดส่งอุปกรณ์และเครื่องมือในการขุดเจาะน้ำมันเข้าไปยังน่านน้ำซึ่งยังคงเป็นปัญหาข้อพิพาทเมื่อวันที่ 1 พ.ค. โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีน ตั้งอยู่ห่างจากหมู่เกาะพาราเซลที่ทั้งสองชาติอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองราว 32 กม. และไกลจากชายฝั่งประเทศเวียดนามราว 278 กม.
อย่างไรก็ดี ประชาชนชาวเวียดนามจำนวนมากต่างไม่พอใจกับเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะในกรุงฮานอยที่มีการเดินขบวนประท้วงต่อต้านจีน ลุกลามกลายเป็นเหตุนองเลือด บุกทำลายโรงงานอุตสาหกรรมหลายร้อยแห่งที่นักธุรกิจจีนเข้าไปลงทุนจนเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเอกสารฯ ระบุว่า พบพลเมืองจีน “ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม” จำนวน 4 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 300 คน
เนื้อหาของเอกสารฯ กล่าวว่า บริษัทน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งชาติจีน หรือซีนุก (CNOOC - China National Offshore Oil Corporation) บุกเบิกการสำรวจทางธรณีเพื่อค้นหาปิโตรเลียม และการสำรวจแท่นขุดเจาะในพื้นที่ดังกล่าวมานานนับสิบปีแล้ว โดยปฏิบัติการขุดเจาะน้ำมันก็เป็น “ขั้นตอนต่อเนื่องของกระบวนการสำรวจที่อยู่ภายใต้อธิปไตยและขอบเขตอำนาจของจีน”
“เวียดนามขัดขวางการปฏิบัติงานของแท่นขุดเจาะอย่างผิดกฎหมายขั้นร้ายแรง โดยส่งเรือติดอาวุธเข้าปะทะกับเรือเดินสมุทรของจีน นอกจากนั้นยังส่งทีมนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่ทางทะเล ลอบวางอุปสรรคกีดขวางจำนวนมาก ทั้งตาข่ายดักปลาหรือวัตถุลอยน้ำอื่นๆ ในพื้นที่อีกด้วย”
“การกระทำของเวียดนามได้ละเมิดอำนาจอธิปไตยจีน แสดง ‘การคุกคาม’ ต่อสวัสดิภาพของบุคลากรบนแท่นขุดเจาะ และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS)”
ทั้งนี้ ในเอกสารฯ ยังได้อ้างอิงบันทึกข้อมูลต่างๆ ซึ่งกล่าวว่าหมู่เกาะพาราเซล “ถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของแผ่นดินจีนโดยไร้ข้อโต้แย้งอื่นใด” อีกด้วย