เอเอฟพี - จีนเผยซากวัตถุลึกลับจากท้องฟ้า เป็นแค่ชิ้นส่วนดาวเทียมสื่อสารของรัสเซีย ด้านแดนหมีขาวตั้งทีมพิเศษสอบสวนด่วน หลังเกิดอุบัติเหตุทางอวกาศบ่อยครั้ง
ซินหวา สื่อทางการจีน รายงาน (19 พ.ค.) ผลการพิสูจน์ซากวัตถุลึกลับที่ตกลงมาจากน่านฟ้าเมืองฉีฉีฮาเอ่อร์ของมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับภาคตะวันออกไกลของประเทศรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) ที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานอวกาศแห่งชาติจีนสรุปว่า “บรรดาวัตถุต้องสงสัยเหล่านั้นเป็นชิ้นส่วนจากจรวดขนส่งหรือดาวเทียมที่รัสเซียยิงขึ้นสู่อวกาศในวันเดียวกัน” โดยเจ้าหน้าที่จีนกำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัสเซีย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
ทางด้านเจ้าหน้าที่ด้านกิจการอวกาศของรัสเซียเผยว่า เครื่องจักรควบคุมของจรวดขนส่งโปรตอน (Proton rocket) ประสบเหตุขัดข้องทางเทคนิคขึ้น หลังถูกยิงออกจากฐานปล่อยในศูนย์ปล่อยอวกาศยานไบโคนูร์ (Baikonur space centre) ประเทศคาซัคสถาน ได้เพียง 9 นาทีเท่านั้น
สถานีโทรทัศน์รัสเซียได้แพร่ภาพวินาทีจรวดขนส่งฯ และดาวเทียมเอ็กซ์เพรส-เอเอ็ม4พี (Express-AM4P) มูลค่า 205 ล้านดอลลาร์ ที่ผลิตโดยแอสเตรียม คอร์ปอเรชั่น ในเครือแอร์บัส กรุ๊ป ของกลุ่มประเทศยุโรป เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นในชั้นบรรยากาศส่วนบนของโลก
เจ้าหน้าที่ฯ เสริมว่า ระบบควบคุมจรวดขนส่งโปรตอนล้มเหลวลง 545 วินาที หลังจากถูกยิงปล่อยเมื่อเวลา 1.42 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงมอสโค โดยชิ้นส่วนดาวเทียมกระจัดกระจายตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก เขตไซบีเรีย และพื้นที่ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หรือความเสียหายใดๆ
ขณะที่องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย หรือรอสคอสมอส (Roscosmos) กล่าวว่า ได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษมาสืบหาข้อมูลและสาเหตุของอุบัติเหตุทางอวกาศครั้งนี้แล้ว
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. 2556 ดาวเทียมนำทาง 3 ดวง มูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็สูญหายไป หลังจากระบบควบคุมของจรวดขนส่งโปรตอน-เอ็ม (Proton-M rocket) เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-คาซัคสถาน โดยรัฐบาลคาซัคฯ ออกคำสั่งระงับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับจรวดโปรตอนทั้งหมดลงชั่วคราว
ส่วนรัสเซียได้สั่งปลดนาย Vladimir Popovkin ออกจากตำแหน่งหัวหน้ารอสคอสมอสในเดือน ต.ค. ถัดมา หลังเขาเข้าทำงานได้ไม่ถึง 2 ปี โดยชี้มูลเหตุจากความล้มเหลวและอุบัติเหตุทางอวกาศอันน่าอับอายหลายครั้งหลายครา และแต่งตั้งนาย Oleg Ostapenko ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เข้าสานต่อภารกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้แทน