xs
xsm
sm
md
lg

อาลีบาบา ยักษ์ฯ จีน กำหนดเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประเมินกิจการฯ กว่าแสนล้านฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หม่าหยุน 马云 หรือแจ๊ค หม่า อดีตอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในวิทยาลัยคอมพิวเตอร์เมืองหังโจว ที่คาดว่าจะมีอนาคตเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศ แต่เบนเข็มชีวิตมาเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อาลิบาบา และประกาศเมื่อปี พ.ศ. 2542 ว่าจะก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ภาพซินหวา)
เอเยนซี - อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ได้ยื่นเรื่องเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้ว และเตรียมจะขายหุ้นของบริษัทในอนาคตอันใกล้

สื่อต่างประเทศรายงาน (7 พ.ค.) ว่า อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ได้ยื่นเรื่องเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ไอพีโอ) อย่างเป็นทางการแล้ว และเตรียมจะขายหุ้นของบริษัทในอนาคตอันใกล้ ประเมินมูลค่ากิจการมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ยืนยันความมั่นคงซึ่งคาดกันว่าจะเป็นหนึ่งในกิจการที่มีพอร์ตหุ้นใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ข้อมูลฯ เสนอเข้าตลาดหุ้น 2,300 หน้า ระบุว่า กิจการอาลีบาบา เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีกำไรมาก อย่างไรก็ตามในเอกสารดังกล่าว ไม่มีรายละเอียดสำคัญบางประการ อาทิ รายได้สำหรับตลาดหลักของบริษัท รายได้จากเงินโฆษณา รวมถึงรายชื่อของผู้บริหารคนใหม่หลังจากบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว และยังไม่สรุปว่าจะซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หรือ แนสแด็ก

ปัจจุบัน Alibaba มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือบริษัทญี่ปุ่น SoftBank 34.4%, ยาฮู 22.6% (บริษัทวางแผนขายหุ้นออกครึ่งหนึ่งเมื่อเข้าตลาดฯ) ส่วนซีอีโอ Jack Ma มีหุ้นอยู่ 9% ไตรมาสที่ผ่านมา Alibaba มีรายได้ 5,500 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิถึง 1,350 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่างจาก Amazon ที่มีกำไรเพียงเล็กน้อย เพราะ Alibaba ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าและเก็บค่าธรรมเนียม จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการสต็อกสินค้าไว้

รายงานระบุว่า ปัจจุบัน อาลีบาบา เว็บฯ ตัวกลางในการซื้อขายสินค้าและมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียม มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ SoftBank ร้อยละ 34.4, ยาฮู ร้อยละ 22.6 ซีอีโอของบริษัทแจ็ค หม่า ร้อยละ 9 เมื่อปีที่แล้ว อาลีบาบามีการซื้อขายสินค้าเป็นมูลค่ากว่า 240,000 ล้านดอลลาร์ มีรายได้เป็นจำนวนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ และกำไรมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ โดย 9 เดือนสุดท้ายของปี 2556 รายได้ของอาลีบาบา เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 ขณะที่ไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้ 5,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทฯ จะได้ส่วนแบ่ง 43 เซนต์ต่อ 1 ดอลลาร์ จากรายได้สุทธิฯ

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาลีบาบา ประเมินกิจการอย่างคร่าวๆ ไว้ที่ 1.09 แสนล้านดอลลาร์ จากการคำนวณจำนวนและฐานราคาหุ้น รวมทั้งการชดเชยมูลค่าหุ้น การแปลงหุ้นบุริมสุทธิ

บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า อาลีบาบาจะมีมูลค่ากิจการสูงขึ้นไปอีกได้ถึงราว 168,000 ล้านดอลลาร์ จากหุ้นไอพีโอที่สูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ เหนือกว่าเฟซบุ๊ค ที่มีมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อตอนเข้าตลาดฯ ในปี 2555 และเป็นรองเพียงธนาคารเกษตรของจีน ที่ขายหุ้นไอพีโอในตลาดหุ้นในเซี่ยงไฮ้ได้เป็นมูลค่ากว่า 22,100 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2553


กำลังโหลดความคิดเห็น