ซินหัว/ASTVผู้จัดการ – อุทธาหรณ์ความหึง! ศาลจีนมณฑลเจียงซู ตัดสินประหารชีวิตไอ้หนุ่มลูกเศรษฐี คดีหึงหวงก่อเหตุจ้วงแทงภรรยาสาวสวยวัย 22 ปีจนถึงแก่ความตายกว่า 30 แผล ทั้งๆ ที่เพิ่งมีลูกสาววัยเพียง 3 เดือนด้วยกัน
บ่ายวันศุกร์ที่ 18 เมษายน ศาลอุทธรณ์มณฑลเจียงซู เมืองหนานจิง (นานกิง) ได้อ่านคำพิพากษาคดีฆาตกรรมอื้อฉาว โดยผู้ต้องหาคือ นายจี๋ ซิงเผิง วัย 25 ปี เศรษฐีหนุ่มซึ่งราวหนึ่งปีก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2556 ได้ก่อคดีฆาตกรรมภรรยาแซ่ฉี วัย 22 ปี ด้วยความหึงหวง
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 25 เมษายน ปีที่แล้ว หลังจากนายจี๋เมามายกลับบ้านซึ่งตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านซีตีกั๋วจี้ เขตเจี้ยนเย่ เมืองหนานจิง เนื่องจากเกิดความสงสัยว่าภรรยาสาวสวยแซ่ฉีนอกใจจึงเกิดมีปากเสียงกัน จนนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย และเหตุฆาตกรรม โดยสามีหนุ่มหยิบมีดมาจ้วงแทงภรรยาอย่างบ้าคลั่งราว 20-30 แผลจนถึงแก่ชีวิต โดยที่น่าเศร้าก็คือทั้งคู่เพิ่งมีลูกสาวอายุได้เพียง 3 เดือน
คดีดังกล่าวเป็นเรื่องราวใหญ่โตในเมืองจีนเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากนายจี๋นั้นเป็นลูกของมหาเศรษฐีของเมืองจีน ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หรูหราหลายแห่ง ทั้งนายจี๋ยังเป็นสมาชิกของชมรมหนานจิง FSC ซูเปอร์คาร์ ซึ่งมีชนชั้นสูงของจีนเป็นสมาชิกจำนวนมาก โดยสามีภรรยาคู่นี้รู้จักกันมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม แม้จะมีเสียงนินทากันมาตั้งแต่ต้นว่าหญิงสาวแต่งงานกับชายหนุ่มก็เพราะความร่ำรวยของครอบครัวฝ่ายชาย แต่เพื่อนๆ ของทั้งคู่ก็ยืนยันว่า ฝ่ายทางบ้านของผู้หญิงก็ไม่ได้ยากจนอะไร และทั้งคู่แต่งงานกันเพราะหนุ่มลูกเศรษฐีเอาอกเอาใจแฟนสาวเป็นอย่างดีต่างหาก
ทว่า หลังจากแต่งงานกันและเพิ่งมีลูกได้ไม่นาน ฝ่ายชายกลับเกิดความหึงหวงต่อภรรยาตัวเอง และเกิดความสงสัยว่าลูกที่เพิ่งคลอดนั้นไม่ใช่บุตรของตน จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมขึ้น ทว่าภายหลังกลับมีการพิสูจน์ดีเอ็นเอและยืนยันแล้วว่าบุตรสาวที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นบุตรของทั้งคู่จริง
ก่อนหน้านี้ในการสืบพยานโดยศาลอุทธรณ์เมืองหนานจิงเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 ฝ่ายผู้ต้องหา นายจี๋ ซิงเผิงได้เบิกความว่า เหตุที่ตนทำลงไปนั้นก็เพียงเพื่อป้องกันตนเอง โดยไม่มีความตั้งใจจะสังหารภรรยาแต่อย่างใด ทว่า ทางอัยการโต้แย้งว่าจากหลักฐานและพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้นโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง ทั้งคดีนี้ยังเป็นคดีอื้อฉาวที่เป็นที่จับตาของสังคม อีกทั้งคำให้การของผู้ต้องหาระหว่างการสืบสวนสอบสวนในชั้นต้น กับคำให้การระหว่างขึ้นศาลก็กลับไปกลับมา ไม่ตรงกัน โดยอ้างว่าคำให้การก่อนหน้านั้นที่ให้การเพราะถูกกดดัน ด้วยเหตุนี้อัยการจึงเรียกร้องให้ศาลพิจาณาลงโทษสถานหนักแก่นายจี๋
กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 เม.ย.) ศาลอุทธรณ์มณฑลเจียงซูจึงพิพากษาให้ประหารชีวิตนายจี๋ ซิงเผิง เนื่องจากมีพฤติกรรมจงใจฆ่าคน ทว่าคดีมีเหตุให้รอลงอาญาไว้ก่อน 2 ปี โดยในช่วง 2 ปีนี้ หากนายจี๋ไม่ได้ก่อความผิดคดีอาญาอื่นใดเพิ่มขึ้นมาอีกก็อาจจะได้ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังพิจารณาตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และนายจี๋ต้องเสียค่าชดเชยเป็นค่าเดินทางให้กับทนายฝ่ายผู้ร้องคดีอีก 2 พันหยวน (ราวหนึ่งหมื่นบาท)