เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนเดินหน้าไปสู่การมีรัฐบาล ที่โปร่งใส โดยประกาศกฎข้อบังคับใหม่ ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐปกปิดข้อมูล ที่ควรแจ้งแก่ประชาชน โดยใช้ข้ออ้างว่า เป็นความลับของประเทศ
จีนขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศ ที่มีกฎหมายเกี่ยวกับความลับของชาติ ที่คลุมเครือ เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมไปเสียทุกเรื่อง ตั้งแต่จำนวนนักโทษที่ถูกประหารชีวิตในแต่ละปี ไปจนถึงฐานข้อมูลด้านอุตสาหกรรม และแม้กระทั่งตัวเลขและข้อมูลเกี่ยวกับมลภาวะ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นความลับของชาติ
ประเด็นความลับของชาติจีนตกเป็นเป้าสนใจไปทั่วโลก เมื่อเกิดคดีการจับกุมพนักงานของบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ริโอ ทินโต เป็นชาวออสเตรเลียและเพื่อนร่วมงานชาวจีนอีก 3 คน ในปี 2552 ด้วยข้อหาขโมยความลับของประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งก็ถูกกดดันจากประชาชนให้มีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมิได้มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติเลย
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ( 2 ก.พ.) ว่า กฎข้อบังคับใหม่นี้ห้ามหน่วยงานของรัฐบาลใช้อำนาจในการให้คำนิยามข้อมูลสาธารณะ ซึ่งมีกฎหมายรองรับว่า เป็นความลับของชาติ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2557 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม กฎข้อบังคับใหม่นี้ก็มิได้อธิบายว่า มีข้อมูลสาธารณะใดบ้าง ที่ไม่เรียกว่าความลับของชาติ นอกจากนั้น ยังระบุด้วยว่า ขอบเขตของสิ่งที่เป็นความลับควรปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ซึ่งพบว่า ความลับของประเทศตกอยู่ในอันตรายจะต้องรายงานปัญหาภายใน 24 ชม. หากปกปิด หรือไม่รายงานเรื่องความลับรั่วไหลจะถูกลงโทษ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐระดับท้องถิ่นมักอ้างกฎหมายความลับของชาติ เพื่อปกปิดการกระทำผิด ซึ่งอาจทำให้ถูกลงโทษ เช่นตำรวจใช้อำนาจบาตรใหญ่กับประชาชน หรือปัญหามลพิษในท้องถิ่น
