เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สืบเนื่องจากเหตุอัคคีภัย ณ หมู่บ้าน “ตู๋เค่อจง” ถิ่นอาศัยของชาวทิเบตอายุร่วมพันปีในอำเภอแชงกรีล่า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำมณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
ล่าสุด ซินหวา สื่อทางการจีน รายงาน (20 ม.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวสตรีเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง หลังเธอถูกกล่าวหาว่า “ลืมปิดเครื่องทำความร้อน” จนทำให้เกิดไฟไหม้นานกว่า 10 ชม. เผาผลาญสิ่งปลูกสร้างโบราณ บ้านเรือน 343 หลัง และส่งผลเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างน้อย 1,000 คน
โดยในวันเกิดเหตุฯ ต้องระดมทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครมากกว่า 2,000 คน ช่วยกันดับไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ ผสมกับสภาพอากาศแห้งและกระแสลมพัดแรงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่หน่วยดับเพลิงก็เข้าคุมสถานการณ์ได้ยากลำบาก เพราะตรอกซอยอันคับแคบและแท็งก์สำรองน้ำขนาดเล็กที่ใช้ฉีดพ่นได้เพียง 10 นาที ส่วนแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างออกไปกว่า 1.5 กม. อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอ้างผลการสอบสวนเบื้องต้นระบุว่า ระบบป้องกันอัคคีภัย มูลค่านับล้านดอลลาร์ที่ติดตั้งอยู่ในหมู่บ้าน กลับไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์รายหนึ่งเผยว่า หัวจ่ายน้ำไม่ทำงานและอุปกรณ์ดับเพลิงก็ถูกเก็บอยู่ไกลและลับตาผู้คน
“เกสต์เฮ้าส์อายุกว่า 10 ปีของผมต้องมลายกลายเป็นผุยผงในพริบตา ... มันเป็นเหตุไฟไหม้ครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยพบมา” นายโจว เผิง หนึ่งในเหยื่อผู้ประสบภัยกล่าว
“เราหวังว่าใครก็ตามก็เป็นต้นเหตุอุบัติภัยครั้งนี้จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ และขอให้รัฐบาลเร่งชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย”
หมู่บ้านตู๋เค่อจง (独克宗古城) อันมีความหมายว่า “ดินแดนแห่งจันทรา” ในภาษาทิเบต เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ก่อสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์ถัง มีอายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในฐานะเมืองที่สามารถอนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ใน “แชงกรีล่า” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติให้เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
