หนูน้อยปินปิน ผู้ถูกหลอกควักดวงตา ได้กลับบ้านหลังผ่าตัดฯ ลุล่วงด้วยดี

เอเจนซี - เด็กชาย กัว ปินปิน ผู้ถูกหลอกไปควักลูกตา เข้ารับการรักษามาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่่ผ่านมา ล่าสุด ได้รับการผ่าตัดใส่ดวงตาเทียม และกำลังจะได้กลับบ้านแล้ว ทุกฝ่ายพร้อมให้ความช่วยเหลือ

สื่อต่างประเทศ รายงาน (11 ธ.ค.) ว่า เด็กชาย กัว ปินปิน หรือเสี่ยวปิน (นามสมมุติ) วัย 6 ขวบ ผู้ถูกหลอกไปควักลูกตา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ได้รับการผ่าตัดใส่ดวงตาเทียม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา และกำลังจะได้กลับบ้านแล้ว โดยการผ่าตัดรักษาดวงตาเทียมนี้ จะยังไม่สามารถทำให้เขากลับมามองเห็นได้ เพียงแต่ทำให้รูปหน้าของเขาดูเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไป

นางหวัง เวินหลี่ กล่าวกับ บีบีซี ว่า จะลองให้ลูกรักษาในทุกวิถีทาง ซึ่งตอนนี้ ปินปิน ได้รับการรักษาฟรี ในโรงพยาบาลเซินเจิ้น ส่วนปินปินนั้น ก็กลับมามีสภาพจิตใจปกติเหมือนเด็กทั่วไป และบอกแม่ว่า โตขึ้นอยากเป็นตำรวจ ด้านผู้ปกครองฯนั้น เวลานี้ต่างต้องการเพียงให้เขามีความสุข ร่าเริงเหมือนเคยเป็น นางหวังยังกล่าวว่า ถ้ามีวิธีใดที่จะเป็นความหวังในการรักษาดวงตาของ ปินปินได้ แม้จะเป็นหวังที่ริบหรี่ ก็จะขอลอง

"ความหวังของฉันก็ขอเพียงแค่ ให้เขาได้เห็นแสงสักเล็กน้อยก็ยังดี ไม่ตกอยู่ในความมืดตลอดชีวิต" นางหวังกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายแพทย์เดนนิส แลม ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุ เผยว่า เขาและทีมแพทย์พร้อมให้การช่วยเหลือเด็กน้อยคนนี้อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้จัดเตรียม “ดวงตาไฟฟ้า” ที่มีกล้องจับภาพอยู่ภายใน ซึ่งจะแปรภาพเป็นกระแสสัญญาณไปยังเครื่องวัดชีพจรขนาดเล็กที่เชื่อมอยู่กับลิ้น เพื่อช่วยให้เสี่ยวปินสามารถรับรู้รูปทรงของวัตถุผ่านดวงตาเทียมดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยีนี้ ทั้งในญี่ปุ่นและยุโรปแล้ว

อนึ่ง เด็กชายกั๋ว ปิน หรือเสี่ยวปิน วัย 6 ปี ถูกพบตัวนอนเจ็บเลือดอาบหน้า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ส.ค. พร้อมกับดวงตาทั้งสองข้างที่ถูกควักหายไป หลังจากเด็กน้อยออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้เพียง 3-4 ชั่วโมง โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า พบลูกตาและกระจกตาตกอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบตัวเด็ก ดังนั้น แรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ จึงไม่น่าใช่เรื่องของการค้าอวัยวะแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มณฑลซานซี กล่าวว่า เวลานี้ ปินปินและครอบครัว จะได้รับความช่วยเหลือเพื่อฟื้นสภาพจิตใจ และฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้ปินปินสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้อื่น และมีความมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง โดยทางรัฐบาลจะช่วยให้ปินปินเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนที่เหมาะสม