xs
xsm
sm
md
lg

เทียนเหอ2 ยังรักษาแชมป์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลก เชื่อปีหน้าก็ยังทิ้งห่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิจัยชาวจีนกำลังตรวจสอบระบบการทำงานของ เทียนเหอ 2 (ภาพเหรินหมิน)
เอเยนซี - ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เทียนเหอ-2 ของจีน ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วที่ที่สุดในโลกไว้ได้ จากการประเมินผลครั้งล่าสุดในรอบครึ่งปีหลัง ผู้จัดอันดับเชื่อ ปีหน้าก็ยังไม่มีใครตามทันจีน

สื่อต่างประเทศ รายงาน (19 พ.ย.) ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เทียนเหอ-2 ของจีน ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วที่ที่สุดในโลกไว้ได้ จากการประเมินผลครั้งล่าสุดในรอบครึ่งปีหลัง โดยรายงานจัดอันดับ ท็อป500 ที่เผยเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ย.) ระบุว่า ประสิทธิภาพในการประมวลผล 33.86 petaflop ตามมาตรฐาน Linpack ที่มีความเร็วในการคำนวณ เท่ากับ 54,900 ล้านครั้ง/วินาที ของเทียนเหอ-2 ยังคงทิ้งห่าง ไททัน (Titan) จากสหรัฐถึง 2 เท่าเช่นเดิม

แจ๊ค ดอนการา ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี และเป็นบรรณาธิการ ท็อป500 กล่าวกับซินหัว ว่า เทียนเหอ ยังมีความเร็วเหนือกว่า ไททัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ อันดับ 2 ของสหรัฐฯ และจะไม่แปลกใจเลยถ้าปีหน้าและปีต่อๆ ไป เทียนเหอ ก็ยังอันดับหนึ่ง โดยสิ่งที่ท้าทายในเวลานี้ คงมีเพียงว่าจีนจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปคอมพิวเตอร์เอง ซึ่งจะทำให้ทุกชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์เป็นผลงานล้วนๆ ของจีน

เทียนเหอ 2 (Tianhe 2 หรือ Milky Way-2) พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเพื่อการปกป้องแห่งชาติจีน (China’s National University of Defense Technology) จะถูกติดตั้งและปฏิบัติการที่ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (National Supercomputer Center) นครก่วงโจว มณฑลก่วงตง หรือกวางตุ้ง ภายในปลายปีนี้ นับเป็นความสำเร็จที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากเทียนเหอ 2 สามารถเข้าประจำการปฏิบัติการได้เร็วกว่ากำหนดที่คาดหมายไว้ 2 ปี

“เทียนเหอ 2” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีระบบปฏิบัติการที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีอัตราการคำนวณสูงสุดถึง 5.49 เพตาฟล็อป มีจุดเด่นห้าประการ คือ ประสิทธิภาพสูงด้วยอัตรารวดเร็วทำสถิติใหม่ของโลก ประหยัดพลังงานถึงระดับชั้นนำของโลก ระบบไม่ซับซ้อน ครอบคลุมทุกการใช้งาน และต้นทุนการผลิตคุ้มค่า ปฏิบัติการประมวลผลภายใน 1 ชั่วโมงของเทียนเหอ 2 นี้ เทียบเท่ากับการคำนวณด้วยเครื่องคำนวณในเวลาเดียวกันของคน 1,300 ล้านคน เป็นเวลา 1,000 ปี

ขณะที่อันดับซูเปอร์คอมพฯ อื่นๆ ยังคงรักษาตำแหน่งเดิมของตนไว้ได้ โดย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับที่ 2 ของโลก ได้แก่ ไททัน (Titan) ของบริษัทเครย์ (Cray) ติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ทดลอง Oak Ridge National Laboratory ของสำนักงานพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา โดยตกจากอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 2 ครั้งก่อนหน้า

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับ 3 ได้แก่ Sequoia ของ ไอบีเอ็ม ติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ทดลอง Lawrence Livermore National Laboratory ของสำนักงานพลังงานสหรัฐอเมริกา โดยร่วงลงไปหนึ่งอันดับจากการจัดอับดับครั้งก่อนเช่นกัน

ส่วนซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับ 4 คือ “K computer” ของ ฟูจิสึ แห่งแดนปลาดิบ ติดตั้งอยู่ที่ RIKEN Advanced Institute for Computational Science (AICS) ในโกเบ ประเทศญี่ปุน ขณะที่ มิร่า (Mira BlueGene/Q system) ของ DOE’s Argonne National Laboratory อยู่อันดับ 5

อย่างไรก็ตาม โดยรวมนั้น สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำ มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ติดโผมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 265 รุ่น จีนตามมาเป็นอันดับ 2 มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 63 รุ่น ตามลำดับด้วยญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี

รายงานข่าวกล่าวว่า รายงานการจัดอันดับ ท็อป500 จัดขึ้นปีละสองครั้ง เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2536 โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นรายงานอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลกที่น่าเชื่อถือ รวบรวมโดย ฮานส์ มอยเออร์ แห่งมหาวิทยาลัยแมนไฮม์ ประเทศเยอรมนี ร่วมกับ อีริค สโตรหไมเออร์ และ ฮอรส์ต ไซมอน จากห้องวิจัย ลอว์เรนซ์ เบิร์คลีย์ (Lawrence Berkeley National Laboratory) และ แจ๊ค ดอนการา แห่งมหาวิทยาลัยเทนเนสซี ใน นอกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเพตาฟล็อปหรือพันล้านล้านคำสั่งต่อวินาทีนั้น มักถูกนำไปใช้ในงานที่ต้องการระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการประมวลผลสูงเป็นพิเศษ เช่น ด้านการพยากรณ์อากาศ การวิจัยนิวเคลียร์ การทหาร และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น