เอเยนซี - ธงชาติจีนสีแดงสดโบกสะบัดตามกระแสลม พร้อมๆ กับบรรดาผู้นำจีนที่ยืนแสดงความเคารพและรำลึกถึงวีรชนคนปฏิวัติ ณ อนุสาวรีย์วีรบุรุษ จัตุรัสเทียนอันเหมินอย่างสงบนิ่ง เนื่องในโอกาสวันชาติจีนปีที่ 64 (1 ต.ค.) ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างชุ่มฉ่ำ ขณะที่ประชาชนแดนมังกรหลายร้อยล้านคนต่างสัญจรท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวกันอย่างคึกคัก
รายงานข่าว (2 ต.ค.) ระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พรั่งพร้อมด้วยผู้นำคนอื่นๆ อย่างหลี่ เค่อเฉียง, จัง เต๋อเจียง, อี้ว์ เจิ้งเซิง, หลิว อวิ๋นซาน และจัง เกาลี่ ยืนร่วมพิธีคารวะและระลึกถึงกลุ่มวีรชนคนปฏิวัติ ในวันฝนพรำยามเช้า บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์วีรบุรุษ ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ใจกลางกรุงปักกิ่ง ในโอกาสวันชาติจีนปีที่ 64 เมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) ทั้งนี้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กำหนดวันที่ 1 ต.ค. เป็นวันชาติ นับจากวันที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศสถาปนาสาธารณัฐประชาชนจีนในปี 2492 (1949) หลังจากชนะสงครามกลางเมืองกับกลุ่มผู้นำกั๋วหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติจีนใหม่
หลังจากท้องฟ้าปลอดโปร่ง หมดเมฆครึ้มฝนพรำ ลานกว้างของจัตุรัสเทียนอันเหมินที่ประดับประดาไปด้วยธงชาติจีนและดอกไม้หลากสี รวมถึงแจกันใบยักษ์ ความสูง 13 เมตร ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และผลไม้สีสันสดใส ก็เปิดรับการไหลบ่าของคลื่นมหาชนชาวจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในช่วง “สัปดาห์ทอง” (Golden week) ซึ่งรัฐบาลจีนประกาศให้เป็นวันหยุดยาวตั้งแต่ 1-7 ต.ค. รวมเวลาทั้งสิ้น 7 วันเต็มอย่างเนืองแน่น
อย่างไรก็ตาม นายเหลียง เสี่ยวอัน โฆษกกระทรวงคมนาคมจีน เผย (26 ก.ย.) ว่า ในช่วงสัปดาห์ทองนั้น จะมีประชาชนชาวจีนมากกว่า 610 ล้านคน เดินทางหมุนเวียนอยู่ในระบบขนส่งมวลชนทุกประเภท เฉลี่ยวันละ 87 ล้านคนเป็นอย่างต่ำ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 6 โดยเฉพาะถนนสายต่างๆ ที่ต้องรองรับผู้คนราว 600 ล้านคนตามตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้น
ขณะที่หน่วยงานด้านการรถไฟจีนระบุว่า ในวันอังคาร (1 ต.ค.) ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว มีประชาชนมาใช้บริการสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 10,327,000 คน ทุบสถิติยอดผู้โดยสารเกิน 10 ล้านคนเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การรถไฟแดนมังกร โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า สาเหตุของยอดผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาลในปีนี้ อาจมาจากการปรับปรุงช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ ซึ่งได้เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารยุคใหม่มากยิ่งขึ้น
