กระเช้าดอกไม้ยักษ์เทียนอันเหมินผลาญภาษีประชาชน

เอเอฟพี - กระเช้ายักษ์ปักดอกไม้สวยงามตระการตา ซึ่งตั้งประดับฉลองวันชาติจีนที่จตุรัสเทียนอันเหมินกลางกรุงปักกิ่งถูกชาวเน็ตรุมสวดยับเยิน หลังทราบราคาการจัดสร้าง ที่แพงโดยใช่เหตุ

กระเช้า หรือกระถางสีแดงขนาดมหึมาดังกล่าว มีความสูง 13 เมตร และกว้าง 11 เมตร ด้านบนปักช่อดอกไม้ประดิษฐ์ และผลหมากรากไม้หลายชนิด เช่น ลูกท้อปลอมผลเบ้อเริ่ม มีการนำมาตั้งที่จตุรัส อันเป็นศูนย์กลางในเชิงสัญลักษณ์ของประเทศจีนตั้งแต่วันอาทิตย์ (29 ก.ย.)

หนังสือพิมพ์ปักกิ่งยู้ทเดลี่รายงานว่า กระเช้าดอกไม้นี้เสียเงินในการจัดทำเป็นมูลค่าสูงถึงกว่า 570,000 หยวน ซึ่งสูงกว่าการจัดทำเมื่อ 2 ปีก่อนถึง 8,000 หยวน

พอทราบราคาเท่านั้น ชาวเน็ตก็พากันเข้ามาวิจารณ์ในทันที แม้รายงานจะระบุว่า ดอกไม้ ที่นำมาประดับประดาทั่วเมืองหลวงในการฉลองวันชาติได้ลดจำนวนลงถึงครึ่งหนึ่งในปีนี้ก็ตาม

"ใครอนุญาตให้นำเงินภาษีของประชาชนมาใช้จ่ายแบบนี้กัน" ชาวเน็ตรายหนึ่งตั้งคำถามในเว็บไซต์ซีนาเวยปั๋ว ซึ่งเป็นทวิตเตอร์เวอร์ชั่นจีน

ขณะที่อีกคนกล่าวว่า เงินจำนวนนี้น่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ที่ดีกว่านี้ได้

อย่างไรก็ตาม จากรายงานของปักกิ่งยู้ทเดลี่นั้น รัฐบาลของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำคนใหม่ได้ประกาศมาตรการประหยัดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองต่าง ๆ เช่น สั่งห้ามการก่อสร้างอาคารที่ทำการของหน่วยงานรัฐหลังใหม่ การออกคู่มือสำหรับการจัดงานเลี้ยงในหมู่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อไม่ให้ผลาญเงินของชาติ รวมทั้งการลดจำนวนกระเช้าดอกไม้ยักษ์เหลือ 8 แสนใบมาตั้งที่บริเวณจตุรัส และถนนหลายสายโดยรอบ จาก 1 ล้านใบเมื่อปีที่แล้ว หลังจากมีรายงานการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ การเลี้ยงอาหารกลางวันฟุ่มเฟือย และการเสนอโครงการก่อสร้าง ที่ไม่จำเป็น

นอกจากกรณีกระเช้าดอกไม้ยักษ์นี้แล้ว ยังมีรายงานว่า คณะผู้บริหารของเมืองแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของจีนมีการสร้างรูปปั้นปลาปักเป้าทองแดงด้วยเงินจำนวนราว 70 ล้านหยวน ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพาษ์วิจารณ์จากประชาชน ที่โมโหจนควันออกหู

ทั้งนี้ จตุรัสเทียนอันเหมินจะตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม ก่อนหน้างานฉลองวันชาติ 1 ต.ค. ทุก ๆ ปี ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลาหลั่งไหลมาเที่ยวที่จตุรัส อันเป็นที่ไว้ร่างไร้วิญญาณของท่านประธานเหมา เจ๋อตง ภายในสุสาน โดยจตุรัสแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ของเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์จีนหลายครั้ง เช่น การประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนของประธานเหมา หรือ แม้กระทั่งเหตุการณ์ปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งมีนักศึกษา และประชาชนถูกสังหารหลายร้อยคน หรืออาจมีจำนวนถึงหลายพันคนเมื่อปี 2532 อีกด้วย