เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนทุ่มเงินหลายพันล้านหยวน ทำโครงการเกษตรกรรมในสาธารณรัฐยูเครน เตรียมสร้างฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุดของจีนในต่างประเทศ เพื่อสนองความต้องการด้านอาหาร ที่ขยายตัวไปพร้อมกับการขยายเมือง
ตามโครงการ ซึ่งมีระยะเวลา 50 ปี สาธารณรัฐยูเครนจะจัดหาพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งมีคุณภาพสูงแก่จีนในเบื้องต้นอย่างน้อย 1แสนเฮกตาร์ หรือ 6 แสน 1 หมื่นไร่ ซึ่งมีขนาดเกือบเท่าฮ่องกง ในภูมิภาค Dnipropetrovsk ทางภาคตะวันออก สำหรับเพาะปลูกข้าวโพดและเลี้ยงสุกรเป็นส่วนใหญ่
สำหรับผลผลิตที่ได้จะขายให้แก่เครือบริษัท ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน 2 ราย ในราคาที่ได้รับสิทธิพิเศษ จากนั้น โครงการจะขยายพื้นที่เป็น 3 ล้านเฮกตาร์ หรือ 18 ล้าน 3 แสนไร่ในที่สุด
ข้อตกลงทำโครงการเกษตรกรรมในสาธารณรัฐยูเครนครั้งนี้มีการลงนามในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาระหว่างบริษัทซินเจียง โปรดักชั่น แอนด์ คอนสตรั๊กชั่น (Xinjiang Production and Construction Corps) หรือ XPCC ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า ปิงถวน กับเคเอสจี อะโกร (KSG Agro) บริษัทด้านการเกษตรชั้นนำของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ในคำแถลงของ XPCC มิได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุน แต่ Kyiv Post รายงานเมื่อเดือนส.ค. ว่า จะมีมูลค่าสูงกว่า 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในคำแถลงยังระบุด้วยว่า โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญของโครงการสร้างความมั่นคงด้านอาหารของจีน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ให้จัดจ้างการผลิตอาหารจากฟาร์มภายนอกประเทศ
ทั้งนี้ XPCC หรือ ปิงถวน เป็นบริษัทลักษณะกึ่งกองทัพ ก่อตั้งในมณฑลซินเจียงช่วงทศวรรษ 1950 เพื่อหักร้างถางพงทำพื้นที่เพาะปลูก และผนึกกำลังป้องกันสหภาพโซเวียต ซึ่งมียูเครนเปรียบเสมือนยุ้งฉาง
โครงการเกษตรกรรมในสาธารณรัฐยูเครนจะเป็นการซื้อ หรือเช่าที่ดินเกษตรกรรมในต่างประเทศ ที่ใหญ่สุดของจีน ถือเป็นย่างก้าวสำคัญของจีน ซึ่งกำลังพยายามส่งเสริมให้บริษัทในประเทศไปทำฟาร์มในต่างประเทศ เพื่อผลิตพืชผลเกษตรกรรมส่งกลับมายังแดนมังกร โดยนายติง หลี่ นักวิจัยอาวุโสด้านเกษตรกรรมของบริษัทแอนบาวด์ คอนซัลติ้ง (Anbound Consulting) ระบุว่า เป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หากเทียบกับโครงการเกษตรกรรม ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2 ล้านเฮกตาร์ หรือ 12 ล้าน 2 แสนไร่ในต่างประเทศของจีนเมื่อปี 2552
ขณะที่เป่ยต้าฮวงกรุ๊ป (Beidahuang Group) ซึ่งเป็นธุรกิจด้านการเกษตรรายใหญ่สุดของจีน ตั้งอยู่ในมณฑลเฮยหลงเจียง และฉงชิ่ง เกรน กรุ๊ป (Chongqing Grain Group) ก็กำลังขยายพื้นที่เพาะปลูกในต่างแดนเช่นกัน
ปัจจุบันจีนเข้าไปลงทุนด้านกสิกรรมในประเทศอื่น ๆ ซึ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในทวีปอเมริกาใต้ โดยเป่ยต้าฮวงได้ที่ดิน 234,000 เฮกตาร์สำหรับเพาะปลูกถั่วเหลือง และข้าวโพดในอาร์เจนติน่า ส่วนฉงชิ่งเกรนทุ่มเงิน 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับที่ดินเพาะปลูกถั่วเหลืองในบราซิล และ1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับที่ดินเพาะปลูกถั่วเหลือง ข้าวโพด และฝ้ายในอาร์เจนติน่า
นายติงระบุว่า แม้ผลผลิตธัญพืชของจีนโตต่อเนื่องมา 10 ปี แต่ความต้องการนำเข้าก็สูงเช่นกัน โดยจีนนำเข้าธัญพืชและแป้งจากธัญพืชเกือบ 14 ล้านตันในปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 150 ของการนำเข้าเมื่อปี2554
ด้านยูเครนเป็นชาติที่มีการพัฒนาด้านการเกษตร และติดอันดับ 1 ใน 10 ของชาติผู้ส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก โดยยูเครนเสนอสิ่งที่ดีแก่ XPCC หลายประการ เช่น ผืนดิน ที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง และความชำนาญด้านการค้าระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน การเข้ามาลงทุนด้านเกษตรกรรมของ XPCC ยังจะช่วยยกระดับเทคโนโลยี่ของยูเครน โดย XPCC ยังกำลังเข้าไปลงทุนในด้านอื่น ๆ เช่น การก่อสร้างทางด่วน และโครงการเคหะของรัฐบาลในยูเครนอีกด้วย ทั้งนี้ความร่วมมือด้านเกษตรกรรมระหว่างจีนกับยูเครนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2554