เอเยนซี - สืบเนื่องจากความโด่งดังเป็นพลุแตกของเจ้า “เป็ดเหลือง ตัวใหญ่ยักษ์” ที่เคยโชว์ตัวอยู่เหนืออ่าววิคตอเรียของเกาะฮ่องกงเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก่อเกิด “เป็ดเหลืองฟีเวอร์” ไปทั่วแดนมังกร
ล่าสุด ทางการกรุงปักกิ่งก็กระโดดร่วมกระแสด้วยเช่นกัน ทว่า กลับเกิดเสียงวิจารณ์หนาหูถึง “ความแตกต่าง” ทั้งเรื่องคุณภาพ และวิธีการบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลจนผู้คนต่างตั้งคำถามด้วยความสงสัย
“มันอาจจะ ‘สูงกว่า’ และ ‘ใหญ่กว่า’ ตัวที่เคยโชว์ในฮ่องกง แต่ว่า ผลงานฉบับปักกิ่งนี้ กลับดูเหมือน “ไก่ปวกเปียก” มากกว่า”
รายงานข่าว (9 ก.ย.) ทีมผู้ผลิต “เป็ดเหลืองลอยน้ำ” ผลงานศิลปะชื่อดัง ฉบับฮ่องกง แสดงความเห็นว่า “เป็ดยักษ์พองลม” เวอร์ชั่นเมืองหลวงแดนมังกรนี้ อาจมีกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าทั้งคู่จะถูกออกแบบโดยศิลปินเจ้าของผลงานคนเดียวกันก็ตาม
“การผลิตอาจประสบปัญหาเล็กน้อย เลยทำให้จงอยปากของเป็ดดูผิดเพี้ยนไป” หลิน ซู่ซิน ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของ AllRightsReserved หุ้นส่วนรายหนึ่งของนายฟอร์เรนทิน ฮอฟแมน ศิลปินชาวดัชต์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้นฉบับ กล่าว
เฉิง อี้ว์ปัง ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีของ Meanmax ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อยในการผลิตของฮ่องกง ระบุว่า “รูปแบบการตัดเย็บจงอยปากที่ผิดวิธี เป็นสาเหตุให้ทรงปากดูเอียงตัวลง คล้ายกับจงอยปากของไก่แทน ขณะที่ของฮ่องกงนั้น ดูมีความโค้งมนและสมจริงมากกว่า”
“ส่วนปากของมันดูแปลกประหลาด และช่วงฐานลำตัวก็ดูไม่มั่นคง” ชาวจีนที่เข้าชมเป็ดลอยน้ำ ที่จัดแสดงอยู่ภายในอุทยานพฤกษศาสตร์แห่งกรุงปักกิ่ง กล่าวแสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ดี ภาพถ่ายของเจ้าเป็ดเหลือง ฉบับปักกิ่งหลากหลายมุม ได้เผยให้เห็นปัญหาการทรงตัวของหุ่นยักษ์นี้ โดยจุดที่ชัดเจนคือ ลำตัวจะเอียงข้างไปทางขวาตลอด ทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นทุ่นลอยน้ำที่ตรึงเจ้าเป็ดนี้ไว้ได้ ตรงข้ามกับตัวที่เคยโชว์อยู่ในฮ่องกงที่จะปิดซ่อนส่วนฐานอย่างเรียบร้อย
ทว่า นายจัง ต้าผิง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการการจัดงานสัปดาห์การออกแบบนานาชาติแห่งกรุงปักกิ่ง ระบุว่า “เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงค่ำคืนของวันพฤหัสบดี (5 ก.ย.) นั้น ค่อนข้างแปรปรวนไปด้วยลมกรรโชกแรงและฟ้าร้องฟ้าผ่า ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจไม่สูบลมเข้าตัวเป็ดเต็มอัตรา เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวชิ้นงาน เลยทำให้มีลักษณะผิดปกติดังกล่าว”
“สำหรับขั้นตอนการผลิต เราทำตามวิธีการและข้อกำหนดของศิลปินอย่างเคร่งครัด ดังนั้น มันจึงไม่มีความแตกต่างใดๆ จากตัวที่เคยจัดแสดงในฮ่องกง” นายจัง กล่าวปิดท้าย
นอกจากนี้ การเรียกเก็บเงินจำนวน 100 หยวน (ราว 500 บาท) ของอุทยานพฤกษศาสตร์ฯ และ 30 หยวน (ราว 150 บาท) ของพระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) เพื่อเป็นค่าเข้าชมก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหู เนื่องจากขัดกับอุดมการณ์ของนายฮอฟแมน เจ้าของผลงาน ที่มุ่งหวังจะเผยแพร่งานศิลปะสู่สาธารณะมากกว่าการทำธุรกิจค้ากำไร
“อันดับแรกต้องจัดแสดงในพื้นที่สาธารณะ เพื่อเข้าถึงผู้ชมหมู่มาก ... ไม่ใช่เพียงเพื่อใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น” นายฮอฟแมน กล่าว