เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ทูตระดับสูงของรัฐบาลจีนออกโรงเตือน สหรัฐฯ ควรหลีกเลี่ยงความขัดแย้งจากประเด็นระบบบริหารการปกครองของฮ่องกง เน้นย้ำ “เป็นเรื่องภายใน ที่สหรัฐฯ หรือชาติไหนๆ ก็ไม่ควรเข้ามาแทรกแซงทั้งสิ้น”
รายงานข่าว (29 ส.ค.) กล่าวว่า หลังจากที่นายพลคลิฟฟอร์ด ฮาร์ท เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า “เขายังคงเฝ้ามอง 'การพัฒนาสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง' ภายใต้หลักกฎหมายพื้นฐาน ควบคู่ไปกับแรงทะเยอทะยานของชาวฮ่องกงทุกคน” ในวันที่เขาเข้ารับตำแหน่งสำคัญ ณ สถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำเขตบริหารพิเศษแห่งฮ่องกง เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
นายซ่ง เจ๋อ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ออกมาแสดงการตักเตือนถึงคำพูดลักษณะดังกล่าว โดยได้พบกับนายคลิฟฟอร์ด ในวันอังคาร (27 ส.ค.) และพูดคุยถึง “การบรรลุความสำเร็จของนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ในฮ่องกง รวมถึงสถานะของรัฐบาลกลางต่อประเด็นทั้งหมด”
นายซ่ง ได้เน้นย้ำว่า “เรื่องระบบการบริหารปกครองของฮ่องกง ถือเป็นกิจการภายในของจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐจากต่างชาติไม่ควรเข้ามาแทรกแซง”
“เราหวังว่าบุคลากรและเจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ ในฮ่องกง จะให้ความเคารพในนโยบาย 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ของจีน”
รายงานข่าวกล่าวเสริมอีกว่า “สหรัฐฯ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้ออ้างใดๆ มาก่อความเคลื่อนไหวอันไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นผลร้ายต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ร่วมระหว่างจีนกับสหรัฐฯ”
อนึ่ง ครั้งนี้นับเป็นการส่งสัญญาณเตือนโดยตรงรอบที่ 3 ต่อเหล่าผู้แทนจากสหรัฐฯ ที่มาปฏิบัติหน้าที่ในฮ่องกง โดยก่อนหน้านี้ จีนเคยตักเตือนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แล้วถึง 2 ครั้งในวันที่ 16 พ.ค. และ 19 ก.ค.ตามลำดับ ซึ่งจีนระบุว่า เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐต่างชาติไม่ควรแสดงความคิดเห็นอันไม่เหมาะสม ต่อประเด็นการเมืองการปกครองของฮ่องกง
ทั้งนี้ฮ่องกงเป็นดินแดนในอาณานิคมอังกฤษ 99 ปี และได้กลับสู่การปกครองของจีนเมื่อปี 1997 ภายใต้รูปแบบการปกครอง "หนึ่งประเทศ สองระบบ"