xs
xsm
sm
md
lg

ซีอาร์ไอฯ สื่อจีนเผย จีนไม่ได้เจรจายกเลิกวีซ่าระหว่างกันกับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีอาร์ไอ - สื่อจีนฯ เผย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของจีน และกรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีน ไม่เคยได้ยินเรื่องยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวระหว่างกันกับไทย และว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน

ซีอาร์ไอ สื่อจีนภาคภาษาไทย รายงาน เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างการรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทย ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศของจีนและไทย กำลังเจรจาเรื่องการยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวระหว่างกัน และเจรจาถึงขั้นรายละเอียดแล้ว คาดว่าสองประเทศจะเริ่มยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวซึ่งกันและกันในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งต่อมาสื่อมวลชนและไมโครบล็อกต่างได้รายงานข่าวนี้ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับยืนยันว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริง

รายงานข่าวของซีอาร์ไอ เผยว่า ผู้สื่อข่าวฯ ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่กรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีน สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน และสำนักงานการท่องเที่ยวไทยประจำกรุงปักกิ่ง โดยได้รับคำตอบเหมือนกันว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย และกรมเอเชียกระทรวงการต่างประเทศจีนยังบอกว่า เรื่องนี้เพียงอยู่ในขั้นตอนการคุยกันเท่านั้น ยังไม่ถึงระดับเจรจากัน และเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน

สาเหตุที่ข่าวนี้มีการแพร่หลายอย่างรวดเร็ว อาจเพราะว่าฝ่ายไทยมีความปรารถนาที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเวลาเยือนจีนมักแสดงความปรารถนาดังกล่าวต่อฝ่ายจีนด้วย

หากยกเลิกวีซ่าระหว่างกัน จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นหลายเท่า คาดว่าแต่ละปีจะมีชาวจีนไปเที่ยวไทยถึง 5 ล้านคน ซึ่งจะนำรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้ เส้นทางท่องเที่ยวก็จะมีความหลากหลายมากขึ้น จะมีคนเที่ยวแบบอิสระด้วยตนเองมากขึ้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวจีนก็ปรารถนาที่จะให้สองประเทศยกเลิกวีซ่าระหว่างกันโดยเร็ว จึงพากันเชื่อว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง

ปัจจุบัน หากชาวจีนอยากไปเที่ยวประเทศไทย ต้องไปทำวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศจีน ใช้เวลา 3- 4 วัน จ่ายเงิน 230 หยวน หรือมีอีกวิธีหนึ่งคือผ่านประเทศที่ 3 เข้าประเทศไทย สามารถทำวีซ่าในด่านศุลกากร จ่ายเงิน 1,000 บาท ซึ่งเท่ากับประมาณ 200 หยวน

หมายเหตุ - อ่านข่าวเว็บไซต์ ซีอาร์ไอ "หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันจีนไทยจะยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวระหว่างกันนั้นไม่จริง"
กำลังโหลดความคิดเห็น